คำว่า PANTU มีความหมายว่า “ยักษ์” จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีรูปร่างหน้าตาน่ากลัวแบบนี้ ดังนั้นเมื่อ PANTU ปรากฏตัวในชุมชน ผู้คนก็วิ่งหนีกันจ้าละหวั่น แต่ว่าไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูน่าหวั่นเกรงเท่านั้น PANTU ยังวิ่งได้เร็วมากอีกด้วย ดังนั้นการวิ่งหนีจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย! เรียกว่าเป็นเกมวิ่งไล่จับแบบศาสนาชินโตก็ได้
พิธีกรรมนี้เป็นของศาสนาชินโต มีชื่อเรียกทางการว่า Pantu Punaha โดยคนที่วิ่งหนี PANTU ไม่ทันจะถูกละเลงด้วยโคลนทั่วตัว แต่ว่านั่นก็คือขั้นตอนในการไล่ภูติผีปีศาจนั่นเอง ซึ่งพิธีกรรมนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นสมบัติของชาติญี่ปุ่นในปีค.ศ. 1982 |