‘บิ๊กป้อม’ ห่วงสถานการณ์ สู้รบในซีเรียและอิรักรุนแรงขึ้น กำชับทุกหน่วย จับตาความเคลื่อนไหว‘ไอเอส’ หลังมีข่าวอาจหลบหนี กระจายตัวตามภูมิภาค โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้เน้นงานข่าว เพิ่มมาตรการเข้า-ออกประเทศ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโรฮิงยา ที่ลักลอบเข้าไทยเพื่อไปยังประเทศที่สาม ขณะที่ 3 จว.ใต้ เปิดเทอมวันแรก ผวจ.ยะลา ประชุมเตรียมความพร้อม เผยขยายความคุ้มครองไปถึงกศน. กลุ่มอาชีวะ และ ร.ร.สายสามัญอื่นๆ ด้วย
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 ต.ค. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มีพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมเป็นประธานว่า พล.อ.ประวิตรกำชับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ภายนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์การสู้รบและติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอส และกลุ่มหัวรุนแรงที่เคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่สู้รบทั้งในอิรัก และซีเรีย ที่มีแนวโน้มว่ากลุ่มไอเอสและกลุ่มหัวรุนแรงจะกระจายหลบหนีเข้าไปตามภูมิภาคต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสถานการณ์ของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ด้วย ที่มีแนวโน้มว่าจะมีผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านเพื่อไปประเทศปลายทาง
“พล.อ.ประวิตรกำชับว่าต้องให้ความสำคัญงานด้านการข่าว เพิ่มมาตรการดูแลการเข้า-ออกให้มีความเข้มข้นทั้งทางบกและทางน้ำ อีกทั้งติดตามความเคลื่อนไหวและความเชื่อมโยงกลุ่มต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการ กระทำที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและภูมิภาค” พล.ต.คงชีพกล่าว
ขณะที่ในพื้นที่จ.ยะลา นายอุสมาน เบ็นอับดุลเลาะห์ ผู้อำนวยการโรงเรียน บ้านพงยือไร หมู่ที่ 1 ต.บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา นำครูและเด็กนักเรียน มาจัดเตรียมห้องเรียนและทำความสะอาดภายในบริเวณโรงเรียน เพื่อเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียนพร้อมกันทั้งจังหวัดในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ขณะเดียวกัน พ.ท.ธานี เกียรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 12 ส่งกำลังทหารร่วมกับนายอับดุลเลาะ มาหะมะ เจ้าหน้าที่ ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยประจำหมู่บ้าน ร่วมสมทบในการรักษาความเรียบร้อยตลอดทั้งวัน
นายอุสมานกล่าวว่า วันนี้เป็นการปฏิบัติการตามข้อตกลงกับคณะครูว่า ก่อนเปิดภาคเรียน จะต้องมาดูความเรียบร้อยสถานศึกษา อย่างน้อย 1 วัน เพื่อให้มีความพร้อมที่จะเปิดสอนในวันเปิดจริง ส่วนมาตรการความปลอดภัย นั้น มีกำลังทหาร ชรบ. มาดูแลความปลอดภัยทั้งหน้าโรงเรียนและภายในบริเวณรั้วโรงเรียน ตลอดทั้งวันที่มีการเรียนการสอน ซึ่งครูทุกคนมีความมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย อย่างไรก็ดี มาตรการรักษาความปลอดภัย จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร นั้น จะต้องมีข้อสรุปในการประชุมผู้บริหารกับฝ่ายความมั่นคงอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโรงเรียนบ้าน พงยือไร มีครูประจำการ ทั้งสิ้น 18 คน มีนักเรียน 186 คน เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา 9 ก.ม.
ต่อมา ที่ห้องประชุมรายา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 1 นายดลเดช พัฒนรัฐ ผวจ.ยะลา เดินทางมาเป็นประธานในการประชุมการรักษาความปลอดภัยครูและบุคลากรทางการศึกษา ในวันเปิดภาคเรียนที่ 2 ของปีการศึกษา 2559 โดยมีผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเขต 1 ผู้แทนฝ่ายตำรวจ ทหาร และกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพราน เข้าร่วมประชุม
นายนพพร มากคงแก้ว ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 1 เปิดเผยว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมเตรียมความพร้อม ในการรักษาความปลอดภัยครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่จะมีการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 พ.ย. นี้ เป็นการประชุมเพื่อซักซ้อม เตรียมความพร้อมการปฏิบัติระหว่างหน่วยปฏิบัติกับครูในพื้นที่ สำหรับมาตรการในการ รปภ.ที่ปฏิบัติมา ก็จะมีแผนการ รปภ.ที่มีการพัฒนาตามลำดับ มีการทำข้อตกลงกับหน่วยในพื้นที่ แต่ในครั้งนี้ก็จะเพิ่มมาตรการในการดูแลเพิ่มเติมไปยัง กศน.และกลุ่มอาชีวะ และกลุ่มโรงเรียนสามัญศึกษาต่างๆ ด้วย
“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดที่จังหวัดปัตตานี ก็ส่งผลกระทบบ้างกับพื้นที่ แต่ก็ได้มีการประสานงาน เตรียมแผน เพื่อป้องกันเอาไว้แล้ว ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนจุดที่ยังเป็นช่วงว่างอยู่ก็จะมีการพูดคุยกันในครั้งนี้ เพื่อที่จะสามารถปรับแก้ได้” นายนพพรกล่าว
ด้านนายดลเดชกล่าวว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้มีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของครูและบุคลากรทางการศึกษา และมีผลกระทบ ต่อการจัดการศึกษาของชาติ ในการนี้หน่วยงานทั้งภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามช่วยกันหาแนวทางช่วยเหลือดูแล สร้างขวัญและกำลังใจมาโดยตลอด แต่สถานการณ์ความไม่สงบก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาพบปะพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจและทำความตกลงกันในทางปฏิบัติเพื่อร่วมกันดูแลครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ได้รับความปลอดภัยถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด