บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวว่า พร้อมใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างแม่นยำและมีเป้าหมาย
เพื่อตอบโต้กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ในอิรัก…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา
กล่าวหลังจากร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทีมที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเขา เมื่อวันพฤหัสบดีว่า
เขาพร้อมจะส่งที่ปรึกษาด้านการทหาร 300 นายไปยังอิรัก และหากจำเป็นก็จะมีปฏิบัติการทางทหาร
อย่างแม่นยำและมีเป้าหมาย เพื่อตอบโต้กลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่
โอบามาแถลงว่า รัฐบาลสหรัฐฯพร้อมจะส่งที่ปรึกษาไปยังอิรัก เพื่อศึกษาว่าความฝึกและจัดหายุทโธปกรณ์
แก่กองทัพอิรักอย่างไร และได้ยกระดับขีดความสามารถด้านการสอดแนมและการข่าวกรองในอิรักแล้ว
นอกจากนี้ ทีมที่ปรึกษาของสหรัฐฯอาจจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมในกรุงแบกแดดและใกล้เมืองโมซูล
ทางเหนือของอิรักที่ถูกกลุ่มติดอาวุธยึดไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
“เพื่อการก้าวไปข้างหน้า เราจะเตรียมพร้อมเพื่อใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่างแม่นยำและมีเป้าหมาย
เมื่อเราลงความเห็นแล้วว่าสถานการณ์ (ในอิรัก) ทำให้จำเป็นต้องใช้มัน” โอบามากล่าว และเสริมด้วยว่า
เป็นการลงทุนที่ดีสำหรับสหรัฐฯในการเข้าแทรกแซงในอิรัก หากมันสามารถป้องกันไม่ให้นักรบของ
‘รัฐอิสลามในอิรักและลีแวนต์’ (ไอซิส) ตั้งฐานที่มั่นซึ่งอาจทำให้เกิดภัยคุกคามต่อชาติตะวันตกได้
อย่างไรก็ตาม โอบามายังคงย้ำว่า จะไม่ส่งพลทหารราบของสหรัฐฯกลับเข้าไปเพื่อสู้รบประจัญบาน
โดยตรงในอิรัก หลังจากทหารอเมริกันคนสุดท้ายเดินทางกลับจากสมรภูมิในอิรักเมื่อเกือบ 3 ปีก่อน
แต่จะช่วยเหลืออิรักเพิ่มเข้มแข็งแก่ทหารของพวกเขาเอง ในการต่อต้านการรุกคืบของกลุ่มติดอาวุธ ไอซิส
โอบามายังเตือนด้วยว่า มีเพียงผู้นำที่ไม่แบ่งแยกฝักฝ่ายเท่านั้น ที่สามารถช่วยเหลืออิรักจากสถานการณ์
ในปัจจุบัน ทั้งนี้ คำพูดนี้ของโอบามาถูกมองว่า เป็นการกล่าวกระทบทางอ้อมถึงนายกรัฐมนตรี นูริ อัล-มาลิกิ
แห่งอิรัก ซึ่งเป็นชายมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งกำลังถูกกล่าวหาว่าดำเนินนโยบายต่อต้านชาวมุสลิมสุหนี่
ส่งผลให้ความไม่สงบในประเทศรุนแรงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ โอบามาระบุว่า จะส่ง จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไปยุโรป
และตะวันออกกลางในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อปรึกษากับพันธมิตรของสหรัฐฯ
เรื่องแผนขั้นต่อไปในวิกฤติอิรัก