พร้อมผลักดันการบูรณาการเพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาการจัดการศึกษาทางด้านวิชาชีพในโรงเรียนมัธยมศึกษา
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565 เวลา 14.00 น. นายพีรศักดิ์ รัตนะ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) เป็นประธานและเป็นสักขีพยานในการลงนามสัญญาข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการเรียนรวมหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย และโรงเรียนวิชาชีพหลักสูตรเลขานุการ (ภาคภาษาอังกฤษ) ระหว่างโรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษา กับ โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา ณ หอประชุมโรงเรียนพระกุมารเยซู พร้อมด้วย นายธีระพันธ์ พุทธิสวัสดิ์ อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ผู้บริหารโรงเรียนนอกระบบ คณะครูโรงเรียนมหาไถ่ศึกษา และโรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยาเข้าร่วมในพิธี
นายพีรศักดิ์ฯ กล่าวว่า (สช.) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาเอกชนทั้งโรงเรียนในระบบและโรงเรียนนอกระบบได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเทียบโอนผลการเรียนจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อเนื่องเปลี่ยนแนวการศึกษา หรือฝึกอบรมในระดับที่สูงขึ้น สามารถนำความรู้ ทักษะ หรือประสบการณ์มาขอเทียบโอนผลการเรียนรู้เข้าสู่หลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งโดยไม่ต้องเสียเวลาเริ่มต้นใหม่ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการเรียนรวมหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย และโรงเรียนวิชาชีพหลักสูตรเลขานุการ (ภาคภาษาอังกฤษ)
ในวันนี้ ถือเป็นการบูรณาการเพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาการจัดการศึกษาทางด้านวิชาชีพในโรงเรียนมัธยมศึกษาร่วมกันระหว่างโรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษากับโรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา ในการปฏิรูปการเรียนการสอนด้านวิชาชีพ ตอบสนองความต้องการในการเรียนวิชาชีพของนักเรียน และเพิ่มทางเลือกให้กับนักเรียนมัธยมศึกษาที่มีความประสงค์จะเรียนควบคู่ไปกับหลักสูตรวิชาชีพเลขานุการ และเชื่อมั่นว่าข้อตกลงของโรงเรียนทั้งสองที่ได้ร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้เกิดประโยชน์กับผู้เรียน สถานศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ด้านซิสเตอร์ทัศนีย์ สินประยูร ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา กล่าวว่า โรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษา กรุงเทพ และโรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่ผู้เรียนจะได้รับโอกาสทางการศึกษา และการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยในโลกยุคดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างสองสถาบันการศึกษา จะสามารถนำไปสู่การศึกษาที่มีคุณภาพและโอกาสทางการเรียนรู้ของผู้เรียน เป็นการนำจุดแข็งของทั้งสองด้านมาปรับใช้เพื่อการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพ ด้วยการเรียนรู้ที่ปฏิบัติได้จริง โดยผู้เรียนจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดของการร่วมมือทางการจัดการเรียนรู้ระหว่างสองสถาบันนี้อย่างที่สุด เพราะเป็นการเปิดสู่การเรียนรู้ที่ได้มาตรฐานตอบสนองต่อความต้องการของโลกยุตดิจิทัล และเปิดโอกาสไปสู่อนาคตของการศึกษาต่อเนื่องในระบบอย่างเต็มภาคภูมิ
บาทหลวงวิรัช อมรพัฒนา ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายหลักของความร่วมมือในวันนี้ คือโอกาสทางการศึกษาของนักเรียนซึ่งเค้าจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพจากโรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา และในขณะเดียวกันโรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษาก็จะเข้ามากำกับในเรื่องของมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ และการประเมินตามกลุ่มสาระ และการศึกษาในระดับสามัญ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้นักเรียนในโครงการนี้ จะได้มีความมั่นใจในการปฏิบัติงานด้านวิชาชีพ และในขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดโอกาสการศึกษาต่อเนื่องอย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น
นางสาวณัฐณิชา สุขสุวรรณ ชั้นปีที่ 3 โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา พูดถึงความรู้สึกที่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยาว่า ก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่ทักษะด้านภาษาอังกฤษของตนถือว่าอ่อนมาก แต่ด้วยความเมตตาจากอาจารย์ที่ช่วยสอนการอ่าน การพูด การเขียนเพิ่มเติมทำให้ตนมีพัฒนาการที่ดีขึ้นพูดได้คล่องขึ้น ไม่เขิลอายที่จะพูด อีกทั้งที่นี่ไม่เพียงแต่สอนวิชาด้านธุรกิจ หรือบัญชีเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมที่หลากหลายให้นักเรียนได้เข้าร่วมอีกด้วย
ด้านนางสาวอารดา บุญมี ชั้นปีที่ 3 โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยาได้เล่าว่า ตนเข้าเรียนที่นี่ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ตนสนใจในส่วนของธุรกิจ Start Up เพราะที่นี่สอนเกี่ยวกับงานธุรกิจภาษาอังกฤษอยู่แล้วด้วย อีกทั้งตนเป็นคนที่ชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว พอได้เข้ามาเรียนที่นี่ก็ทำให้ทักษะด้านภาษาอังกฤษดีขึ้น เพราะที่โรงเรียนไม่อนุญาตให้พูดภาษาไทยเลย จะให้ผู้เรียนใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักทำให้ตนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการเรียนรวมหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย และโรงเรียนวิชาชีพหลักสูตรเลขานุการ (ภาคภาษาอังกฤษ) ระหว่างโรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษา กับ โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยาในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ ดังนี้คือ
1.เพื่อบูรณาการการจัดการศึกษาวิชาชีพในโรงเรียนมัธยมศึกษาร่วมกันระหว่าง โรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษา กับ โรงเรียนพระกุมารเยซูวิทยา ในการปฏิรูปการเรียนการสอนด้านวิชาชีพ
2.เพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนวิชาชีพของนักเรียน
3.เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักเรียนมัธยมศึกษา ที่มีความประสงค์จะเรียนควบคู่ไปกับหลักสูตรวิชาชีพเลขานุการ
4.เพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษา
โดยมีแนวทางการดำเนินการและกิจกรรมความร่วมมือในการจัดการศึกษาเรียนร่วมหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย และวิชาชีพหลักสูตรเลขานุการ (ภาคภาษาอังกฤษ) ควบคู่ไปทั้งสองหลักสูตร
โดยผู้สำเร็จการศึกษาจะได้วุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายและประกาศนียบัตรจบการศึกษาวิชาชีพหลักสูตรเลขานุการ โดยใช้เวลาเรียนไม่น้อยกว่า 3 ปี ร่วมกันในการจัดการฝึกอบรมวิชาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสในการศึกษาด้านวิชาชีพ รายวิชาหลักสูตรระยะสั้น นำผลการเรียนมาขอโอนเพื่อนับหน่วยกิตภายหลัง
ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความต้องการ ความถนัดและความสนใจของผู้เรียนตลอดจนศักยภาพด้านทรัพยากร โดยให้ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันเป็นครั้งคราว ในส่วนของงบประมาณในการดำเนินการจัดการเรียนการสอนนั้น ทั้งสองฝ่ายจะตกลงเห็นชอบร่วมกันโดยให้เป็นไปตามประกาศ/ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ความร่วมมือกันในครั้งนี้ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของผู้เรียนจะได้รับประสิทธิภาพ ด้านคุณภาพมาตรฐานการจัดการศึกษา มาตรฐานวิชาชีพ และ/หรือมาตรฐานสมรรถนะ และร่วมกันในด้านการประชาสัมพันธ์ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติงาน โดยใช้สื่ออุปกรณ์เทคโนโลยี และเครือข่ายของทั้งสองฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน