เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 เมษายน 2565 ที่ลานอเนกประสงค์นครรังสิต (ข้างศูนย์อาหารกินซ่ารังสิต) ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี , ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย , พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารจังหวัดปทุมธานี , ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ร่วมเปิดการแข่งขันมวยไทยระดับโลก Thai Fight คนรักปทุม มีนักมวยชาวไทยและต่างประเทศจำนวน 9 คู่ เพื่อกระต้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ทั่วโลกรู้จักจังหวัดปทุมธานี
บรรยากาศในการแข่งขันชกมวยไทยมีประชาชนพาครอบครัวมากว่า 3,000 คน รับชมความยิ่งใหญ่ของมวยไทยสุดมันส์ แสง สี เสียง ที่ตื่นตาตื่นใจ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด -19 มีการตรวจคัดกรอง ATK วัดอุณหภูมิร่างกาย แสดงผลการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบ 2 เข็ม สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ดูแลความเรียบร้อย
ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทยมีภารกิจพัฒนากีฬาของประเทศให้เป็นผู้นำกีฬาของทวีปเอเชีย และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน สนับสนุนส่งเสริมกีฬาในทุกระดับ ตั้งแต่กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาอาชีพ และการสร้างกีฬาสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงการตั้งเป้าโดยการใช้มวยไทยกระตุ้นการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับพี่น้องชาวไทย กีฬามวยไทยเป็นกีฬาที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย เป็นมรดกของคนไทยทุกคน และเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลก ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างชาติ การแข่งขันมวยไทยไฟท์เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่พวกเราชาวไทยภาคภูมิใจ ทำศิลปวัฒนธรรมประเพณีออกสู่สายตาประชาชนทั้งประเทศไทยและทั่วโลก
ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต กล่าวว่า จังหวัดปทุมธานีในปัจจุบันมีความก้าวหน้าและพัฒนา เป็นเมืองอุตสาหกรรม เมืองมหาวิทยาลัย และที่อยู่อาศัย รวมถึงมีธรรมชาติชุมชนริมน้ำ ที่เป็นวิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวไทยเชื้อสายมอญ และมีความหลากหลายด้านศีลปะวัฒนธรรม โบราณสถานสถานที่สำคัญ ในนามคระกรรมการจัดงานการจัดการแข่งขันมวยไทยไฟท์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นกับจังหวัดปทุมธานี และเพื่อปลูกฝังเยาวชนให้รักในกีฬา ห่างไกลยาเสพติด
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มวยไทยไฟท์ได้มีโอกาสจัดการแข่งขันที่จังหวัดปทุมธานี และเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ถือว่าเป็นการส่งมอบความสุขทางด้านกีฬาในเทศกาลสงกรานต์ให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานีในโอกาสนี้ด้วย โดยมีการแข่งขันทั้งหมด 9 คู่ ซึ่งมวยไทยเป็นมรดกของคนไทยที่พี่น้องประชาชนต้องภาคภูมิใจ ที่เราต้องช่วยกับสืบสานต่อยอดต่อไป การแข่งขันมวยไทยไฟท์คนรักปทุมนอกจากจะส่งเสริมเรื่องกีฬา ยังมีส่วนสำคัญในเรื่องกระต้นเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวที่จังหวัดปทุมธานี เพราะมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศทำให้นักท่องเที่ยวนักลงทุนได้เห็นความเจริญก้าวหน้าของจังหวัดปทุมธานี โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้จังหวัดปทุมธานีมีความเจริญเติบโตที่เชื่อมโยมมาจากกรุงเทพมหานครมาสู่ปทุมธานี เช่นระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ สะพานข้ามแม้น้ำ ทางหลวงหลาย ๆ เส้นทาง สิ่งเหล่านี้เป็นการเชื่อมโยมหลายอย่างทั้งกระจายน้ำท่องเที่ยว นักลงทุน และอุตสาหกรรมและการจ้างงานมาสู่จังหวัดปทุมธานี
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดปทุมธานีไม่เคยจัดมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่เลย วันนี้เมื่อเรามีโอกาสจึงอยากให้พี่น้องชาวปทุมธานี พี่น้องชาวไทยได้รู้จักจังหวัดปทุมธานี เพราะปทุมธานีไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นภูเขา ไม่มีน้ำตก ไม่มีทะเล แต่เราต้องหาวิธีการเพื่อดึงดูให้พี่น้องประชาชนรู้จักปทุมธานี ไม่ใช่จังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ที่ 66 เราต้องพยายามให้ปทุมธานีขยับขึ้นมาเป็นจังหวัดที่น่าอยู่เป็นอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศให้ได้ เราจึงต้องพยายามทุกวิธีทางให้นักท่องเที่ยวรู้จัดจังหวัดปทุมธานี ผมคาดว่าพี่น้องชาวปทุมธานีและชาวไทยได้เห็นแล้วว่าศีลปะมวยไทยนั้นมีความน่าสนใจและต่อไปจะต้องมีแบบนี้อีก เราตั้งใจว่าใน 1 ปี ต้องมีสักหนึ่งครั้ง วันนี้เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์หวังว่าพี่น้องทั่วประเทศและพี่น้องชาวปทุมธานีเราจะต้องผ่านพ้นวิกฤติสงครามไวรัสโควิด-19 นี้ไปด้วยกันและผ่านพ้นไปด้วยความปลอดภัย
นายวุฒิพงษ์ หอกลอง อายุ 41 ตนเองเป็นคนปทุมมาแต่กำเนิดไม่เคยเห็นงานอะไรที่ยิ่งใหญ่ อลังการแบบนี้ ทั่งๆที่เป็นจังหวัดที่อยู่ติดกรุงเทพ จัดงานครั้งนี้สามารถนำพานักท่องเที่ยวเข้ามาชมได้เป็นจำนวนมากทำให้มีเงินหมุดเวียนในจังหวัดได้จากการที่ พ่อค้าแม่ค้าขายของดีและจำหน่ายจำนวนมากเป็นต้น เป็นนิมิตหมายของการท่องเที่ยวถึงแม้นปทุมจะไม่มีภูเขามีทะเลก็สามารถถึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกวิธีหนึ่ง ต้องขอขอบคุณวิสัยทัศน์ของนายก อบจ.ปทุม และนายกเทศบาลนครรังสิตที่ทำให้ จังหวัดปทุมคึกคักจึงอยากให้จัดกิจกรรมที่ กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างนี้อีกครั้ง.
ภาพ/ข่าว สมาคมนักข่าวจังหวัดปทุมธานี