เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ตค. พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายวีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผวจ.ปัตตานี เดินทางมาเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวนายเบิ้มนครปฐม บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 22 ราย เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบเงินช่วยเหลือและกระเช้าให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังพักรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี จำนวน 11 ราย
โดยเฉพาะ 2 รายที่บาดเจ็บสาหัสพักรักษาตัวในห้อง ไอซียู คือ ดช.พรหมพิริยะ พรหมนุกูล อายุ 7 ปี สะเก็ดระเบิดได้ทะลุตัดลำไส้ ซึ่งแพทย์ต้องตัดลำไส้ทิ้งไปเกือบ 60 เซนติเมตร เช่นเดียวกับ นางมโนชา ไม่ทราบนามสกุล ถูกสะเก็ดระเบิดจนทำลายดวงตาข้างซ้ายบอด ส่วนตาขวาสาหัสแพทย์ระบุยังไม่มั่นใจว่าจะกลับมามองเห็นอีกหรือไม่ ส่วนขาขวาแพทย์ได้ตัดออกไปเนื่องจากแรงระเบิดทำให้กระดูดเละ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยทั้งสองรายนี้แพทย์ระบุว่า ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด แต่ทั้งสองรู้สึกตัวและเข้มแข็ง มีญาติและพยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 9 รายปลอดภัยแล้ว
ขณะที่ น.ส.นวิศรา มากชูชิต อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสาธิต มอ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมาแพทย์ รพ.ปัตตานีได้ทำการตัดขาซ้ายออกและนำตัวส่งไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาล มอ.หาดใหญ่ ส่วนอาการยังสาหัสเนื่องจากมีบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดหลายแห่ง ซึ่งแพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
จากนั้น พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ โดยมี พตอ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี รักษาการ ผบก.สรุปเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ พร้อมพบปะกับประชาชนในพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและแสดงความเสียใจต่อญาติของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยวางกำลังดูแลความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้นโดยเฉพาะกับชุมชน ร้านค้าชาวไทยพุทธ เพราะถือว่าเป็นกลุ่มอ่อนแอและตกเป็นเป้าหมาย ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี นอกจากนี้ยังขอให้ประชาชนร่วมมือกันดูแลพื้นที่ตนเองเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและหากพบเห็นบุคคลหรือสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่า คนร้ายพยายามตอบโต้เจ้าหน้ารัฐแต่เหยื่อตกไปอยู่กับประชาชนถือว่าเป็นการก่อเหตุที่ไร้มนุษยชนอย่างมาก
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่าภาพของความสูญเสียด้านหลังนี้ เป็นภาพความเสียหายที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่พฤติกรรมที่โหดร้าย และไร้มนุษยธรรม ซึ่งกอรมน.ภาค 4 ส่วนหน้าต้องขอแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ในครั้งนี้ ทั้งนี้ทางแม่ทัพภาค 4 ได้เน้นย้ำให้เร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ และความเสียหายต่อทรัพย์สินให้เร็วที่สุด
สำหรับความคืบหน้าทางคดี ในขณะนี้ จากการตรวจสอบล่าสุดจากกล้องวงจรปิด พบภาพเบาะแสของคนร้ายค่อนข้างชัดเจน อยากจะยืนยันกับประชาชนว่า ทาง กอรมน.ภาค 4 ส่วน หน้า จะบังคับใช้กฎหมาย กับผู้ที่กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า คงเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุมาก่อนหน้านี้ จากวัตถุระเบิดที่ทางชุด อีโอดี ได้ตรวจสอบเมื่อเช้านี้ มีลักษณะใกล้เคียง หรือเหมือนกับ ในการก่อเหตุที่ผ่านมา โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดที่หน้ามัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นในกลุ่มที่เคลื่อนไหว ในเขตพื้นที่เมืองปัตตานี เจ้าหน้าเอง ก็มีข้อมูลอยู่แล้ว ก็ขอให้ใจเย็น ๆ และทางแม่ทัพเอง ได้เน้นย้ำให้รวบรวมวัตถุพยานให้แน่นหนาที่สุด เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายในครั้งนี้
ส่วนสาเหตุการก่อเหตุไม่อยากให้มองถึงความเชื่อมโยงในวันครบรอบ ตากใบ เพราะตลอด 13 ปี ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบมีโอกาส ก็จะก่อเหตุเสมอ และในขณะเดียวกันตนอยากให้สังคมได้จับตามองความเคลื่อนไหวกลุ่มองค์กรแนวร่วม ที่มักจะเคลื่อนไหวคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐเสมอ เมื่อใดก็ตามที่รัฐบังคับใช้กฎหมาย จะมีบางองค์กรคือ กลุ่มเปอร์มัส และ มูลนิธิประสานวัฒนธรรม มัก จะออกมาคัดค้านการกระทำของเจ้าหน้าที่ เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้อยาก เรียกร้องว่าขอให้เวลา กับทางเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นเคสไหนก็ตาม เราคงไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าไปจับผู้บริสุทธิ์ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการย่อมมีหลักฐานในการเข้าจับกุม อยากให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจ