25 ต.ค.59 สื่อต่างประเทศรายงานว่า ทารกน้อยเพศหญิง ลีนลีย์ โฮป บุตรสาวของ มาร์กาเร็ต ฮอว์คกินส์ โบเมอร์ มีก้อนเนื้องอกที่บริเวณก้นกบร่วมกับกระเบนเหน็บ มารดาของเธอพบเนื้องอกนี้เมื่อเธอมีอายุครรภ์ 16 สัปดาห์ เนื้องอกชนิดนี้ทำให้กระแสเลือดที่ไหลไปเลี้ยงทารกน้อยเบี่ยงเบนไปทำให้ทารกมีโอกาสเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวได้ ทารกน้อยลีนลีย์ถูกผ่าออกมาขณะมีน้ำหนักตัวเพียงครึ่งกิโลกรัม ชิ้นส่วนของเนื้องอกมีขนาดพอๆกับตัวทารก ทำให้การผ่าตัดช่วยชีวิตทารกน้อยมีความเสี่ยงสูง โอกาสรอดของทารกมีเพียง 50 % แต่มารดาของทารกน้อยก็ยืนยันให้ผ่าตัดช่วยชีวิตบุตรสาวของเธอ
นายแพทย์ ดาร์เรลล์ แคสส์ แห่งศูนย์พยาบาลเด็กอ่อนแห่งเท็กซัส หนึ่งในศัลยแพทย์บอกว่าเพราะเนื้องอกมีขนาดใหญ่มาก ทำให้เด็กต้องห้อยอยู่กลางอากาศเป็นเวลานานในระหว่างผ่าตัดและหัวใจของทารกน้อยก็หยุดเต้นในระหว่างผ่าตัด แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจคอยช่วยเหลือให้หัวใจกลับมาเต้นใหม่ในขณะผ่าตัดเอาเนื้องอกออกไป จากนั้นก็นำทารกน้อยกลับเข้าไปในครรภ์มารดาและเย็บแผลปิดมดลูกไว้ดังเดิม
นางโบเมอร์ ผู้มารดาตั้งครรภ์ต่อไปอีก 12 สัปดาห์และทารกน้อยลีนลีย์ ถือกำเนิดออกมาเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาด้วยการผ่าตัด น้ำหนักตัว 5 ปอนด์ 50 ออนซ์ และเมื่อทารกน้อยลีนลีย์มีอายุได้ 8 วัน ก็ได้รับการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำชิ้นเนื้องงอกส่วนกระดูกก้นกบที่ยังหลงเหลืออยู่ออกไป ปัจจุบัน ทารกน้อยลีนลีย์ ได้กลับไปอยู่บ้านแล้ว