พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือคดีความผิดต่อสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ถึงกรณีมีการเปิดเผยชื่อกลุ่มผู้ต้องหาที่กระทำผิดในคดีดังกล่าว 19 คน และเปิดเผยรายชื่อประเทศที่ทั้ง 19 คน หลบหนีไปอยู่อาศัยและใช้เป็นฐานเคลื่อนไหวกระทำการหมิ่นสถาบันว่า อยากขอความร่วมมือจากสื่อทุกแขนงไม่ควรเปิดเผยรายชื่อประเทศและรายชื่อบุคคลทั้ง 19 คนที่เรากำลังติดตามอยู่ เพราะเท่าที่ทราบและจากการตรวจสอบพบว่า ข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปน่าจะเป็นข้อมูลเก่า ไม่ตรงกับปัจจุบัน ทั้งเรื่องตัวบุคคลและประเทศที่หลบหนี ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง จึงอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศเขาได้ จึงอยากให้ระมัดระวัง เพราะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการที่ตนทำหนังสือไปถึงแต่ละประเทศก็เป็นการขอความร่วมมือในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว จึงควรระมัดระวัง ไม่อยากให้เผยแพร่ทั้งในโซเชียลมีเดียหรืออะไร เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุกระทบความสัมพันธ์
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ที่จริงเวลานี้มีการติดตามกลุ่มที่เคลื่อนไหวมากกว่า 19 คน ที่นำเสนอข่าวออกไป หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเขาทำงานกันอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้มั่นใจว่าเราไม่ได้ละทิ้งการทำงานในเรื่องนี้ แต่ถ้าเราไปเผยแพร่เหมือนเน้นย้ำอยู่อย่างนี้ จะย้อนแย้งกับสถานการณ์ที่เราไม่อยากให้ภาพนี้เกิดขึ้นมา
“ทัศนคติไม่สามารถแก้ไขด้วยกฎหมายได้ ต้องแก้ไขด้วยการสร้างความรับรู้ สร้างความเข้าใจ ผมถึงพูดอย่างนี้เสมอ คนพวกนี้ก็เป็นคนที่พยายามจะใช้จังหวะโอกาส คือ คนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ระบบการสนับสนุนเดิมๆ เห็นกันอยู่ สังคมและพี่น้องประชาชนน่าจะเห็นได้ ในลักษณะที่เรามีเหตุการณ์ในลักษณะนี้ กลุ่มพวกนี้ยังมีจิตใจที่ทำได้อย่างนี้ ต้องย้อนดูถึงกลุ่มสนับสนุน กลุ่มที่ทำให้เกิดเรื่องพวกนี้มาตลอดเวลา ย้อนไปข้างหลังจะเห็นว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากที่เรามีข้อมูลข่าวขึ้นมาเลย อยากให้ประชาชนช่วยกันทำให้กลุ่มคนพวกนี้หมดไป ไม่ควรจะให้กลุ่มนี้มามีอำนาจ อิทธิพล เป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก เขาไม่เว้น และฉวยโอกาสที่จะทำเรื่องพวกนี้อยู่ตลอด ผมถึงว่าทำร้ายจิตใจและรับไม่ค่อยได้ ผมเชื่อว่าคนไทยรู้ว่าเป็นใคร” พล.อ.ไพบูลย์กล่าว