(1 มี.ค.65) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นักกฎหมายและสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย เปรียบเทียบกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนเสือตัวผู้ 2 ตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน ทางออกมี 2 ทางคือ ลูกเสือกัดพ่อเสือจนหางขาดหรือพ่อเสือกัดลูกเสือจนคอขาด หากใครได้อ่านแล้วก็หวาดเสียวและอาจมองว่าการเมืองมันโหดร้าย มีมิติเดียวแบบนี้หรือ
ตนในฐานะที่เป็นรุ่นน้องนายนิพิฏฐ์ศิษย์ลูกพ่อขุนด้วยกัน รู้สึกเศร้าใจที่เห็นรุ่นพี่เดินออกจากพรรคหลายคน เข้าใจวิถีการเมืองและการเดินทางของแต่ละคน เคารพในปัจเจกชนและอิสรชนคนการเมือง แต่อันที่จริงเมื่อพี่นิพิฏฐ์ออกจากพรรคไปแล้ว ไม่ควรมาวิจารณ์เรื่องในพรรคประชาธิปัตย์อีก เพราะเรื่องภายในพรรค พรรคย่อมมีการบริหารจัดการกันได้ นายราเมศ รัตนะเชวง ก็ยืนยันกับตนว่าไม่มีความขัดแย้งใดๆกับหัวหน้าพรรค พี่นิพิฏฐ์ไม่ควรพูดเปรียบเทียบแบบนี้ เพราะทั้งโฆษกพรรคและหัวหน้าพรรคไม่ต่างอะไรกับยานลำแม่และยานลำลูกที่จะต้องเดินทางไปด้วยกัน
นายวัชระ กล่าวอีกว่า หากจะไปวิจารณ์นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยเรื่องที่เคยประกาศคนจนจะหมดไปภายในปี 2561 หรือกรณีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยในฐานะผู้อนุมัติเงินธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มกฤษดานคร 10,400 ล้านบาทจนนายวิโรจน์ นวลแข ประธานบอร์ดธนาคารกรุงไทยต้องติดคุก 18 ปี แต่นายอุตตมกลับรอดคดีก็ดูจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องของพรรคสร้างอนาคตไทยที่พี่นิพิฏฐ์ไปอยู่ด้วย จึงไม่ขอวิจารณ์.
#ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางเพจ
https://www.facebook.com/Watchara.Petthong.DemocratTH