กรมชลประทาน นำคณะสื่อมวลชน รับฟังแนวทางการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก เพิ่มศักยภาพอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ต้นแบบการบริหารจัดน้ำครบวงจรภาคตะวันออก พร้อมเชื่อมโยงโครงข่ายผันน้ำส่วนเกินจากแหล่งน้ำ อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี เพิ่มศักยภาพน้ำต้นทุน เสริมความมั่นคงระบบน้ำพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศ ดึงภาคประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนา ให้สอดรับกับความต้องการใช้ของทุกภาคส่วนในภาคตะวันออก
โดยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม 2565 นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน นำคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ร่วมประชุมและรับฟังการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก (วังโตนด-ประแสร์-หนองปลาไหล-บางพระ) เพื่อศึกษา และสำรวจระบบการบริหารจัดการน้ำของอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง และโครงข่ายผันน้ำ ในพื้นที่หัวงาน ของสถานีสูบน้ำบ้านวังประดู่ จังหวัดจันทบุรี โดยมี นายเกรียงศักดิ์ พุ่มนาค ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษาสำนักงานชลประทานที่ 9 และคณะทีมที่ปรึกษา รายงานความคืบหน้าการพัฒนาโครงการผันน้ำจากพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี ไปยังแหล่งเก็บกักน้ำ จังหวัดระยอง เพื่อเป็นการเสริมความมั่นคงในการบริหารจัดการน้ำต้นทุน ของภาคตะวันออก เนื่องจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ จะเป็นศูนย์กลางของการผันน้ำ เพื่อป้อนไปยังอ่างเก็บน้ำต่างๆ ได้แก่ ดอกกราย,หนองปลาไหล และ คลองใหญ่ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคตะวันออก ที่จะมีการขยายตัวที่เกิดจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งในการลงทุน การท่องเที่ยว และภาคเกษตร รวมถึงการขยายตัวของจำนวนประชากรที่มีความต้องการใช้น้ำเพื่ออุปโภคและบริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเฉลิมเกียรติฯ กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง เป็นอ่างเก็บน้ำที่มีศักยภาพ และเป็นต้นแบบการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร โดยการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการพัฒนาโครงการ เพื่อให้สอดรับความต้องการใช้น้ำของทุกภาคส่วน รวมถึงการจัดแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่ม เพื่อสร้างความมั่นคงให้เพียงพอ เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเมื่อปี 2548 ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น และสามารถถอดบทเรียนมาวางแผนการพัฒนาได้ทั้งระบบ
“ทั้งนี้พบว่า จังหวัดระยองสภาพภูมิศาสตร์และภูมิอากาศจะมีปริมาณน้ำฝนที่น้อยในช่วงฤดูฝน เมื่อเทียบ จังหวัดจันทบุรี-ตราด ทำให้กรมชลฯ ได้ดำเนินการตามมติของ คณะรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 มีมติให้ดำเนินโครงการผันน้ำจากพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี ป้อนน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง เพื่อรองรับกิจกรรมการใช้น้ำในภาคต่างๆ ทั้งอุปโภค-บริโภค,การเกษตร,อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการบริหารจัดน้ำโดยการผันน้ำส่วนเกินมาสนับสนุนสร้างน้ำต้นทุนจังหวัดระยอง ให้เพิ่มขึ้น” นายเฉลิมเกียรติฯ กล่าว
ด้านนายเกรียงศักดิ์ พุ่มนาค ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษาสำนักงานชลประทานที่ 9 กล่าวว่า ความคืบหน้าแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อการผันน้ำจากพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี ไปสู่อ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง สามารถดำเนินการโดยผันน้ำส่วนเกิน จากอ่างเก็บน้ำที่กรมชลฯ ซึ่งปัจจุบันมีแผนพัฒนาขึ้น 4 แห่ง ปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำคลองประแกด เป็นอ่างแห่งแรกที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว และ อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ ส่วนโครงการ อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด เป็นอ่างเก็บน้ำที่ 4 ที่อยู่ระหว่าง การขอใช้พื้นที่เพื่อการก่อสร้าง หลังจากการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ ทำให้มีขีดความสามารถในการกักเก็บน้ำ ทั้งระบบ ที่ไหลจากเทือกเขา ใน อ.แก่งหางแมว ไหลผ่าน อ.นายายอาม และ ประตูระบายน้ำวังโตนด ที่มีพื้นที่ลุ่มน้ำประมาณ 1,839.1 ตร.กม. และยังมีปริมาณน้ำที่ไหลลงทะเลมากกว่าปีละ 1,000 ล้าน ลบ. ทำให้มีปริมาณน้ำมีเพียงพอในการกักเก็บเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ใน จังหวัดจันทบุรี รวมถึงการผันน้ำไปยัง จังหวัดระยอง
ปัจจุบันกรมชลประทานได้ดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองประแกด ซึ่งก่อสร้างเสร็จแล้ว ความจุ 60.25 60.26 ล้าน ลบ.ม.,อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่ ความจุ 68.10 ล้าน ลบ.ม. และ อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว ความจุ 80.70 ล้าน ลบ.ม. อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ขณะที่อีกแห่งหนึ่ง คือ อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด มีความจุ 99.5 ล้านลบ.ม. และอยู่ระหว่างการขอใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีความจุรวม 308.56 ล้าน ลบ.ม. สามารถส่งน้ำให้พื้นที่รับประโยชน์ทั้งสิ้น 267,800 ไร่ รองรับความต้องการน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาได้อีกปีละ 45 ล้าน ลบ.ม. และผันน้ำส่วนเกินไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ได้ถึงปีละประมาณ 70 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งนอกจากจะเป็นการเสริมแหล่งน้ำต้นทุนแล้ว ยังสนับสนุนพื้นที่เพาะปลูกสวนผลไม้ใน จังกวัดระยอง และแหล่งน้ำดิบสำรองที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมในเขต จังหวัดระยอง และ จังหวัดชลบุรี
“โครงการดังกล่าวมีการวางระบบท่อผันน้ำพร้อมอาคารประกอบจากคลองวังโตนด จังหวัดจันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง โดยมีการตั้งสถานีสูบน้ำพร้อมเครื่องสูบน้ำ อยู่บริเวณคลองวังโตนด บ้านวังประดู่ ตำบลสามพี่น้อง อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี มีการใช้เครื่องสูบน้ำชนิด Horizontal Split Case สามารถสูบน้ำได้ รวม 5 ลบ.ม./วินาที จำนวน 9 เครื่อง พร้อมโครงข่ายระบบท่อส่งน้ำ โดยแนวท่อส่งน้ำขนาด 1.80 ม. วางขนานไปตามทางถนนมีความยาวรวมทั้งสิ้น 45.7 กม. เพื่อป้อนอ่างเก็บน้ำประแสร์ รองรับความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก” นายเกรียงศักดิ์ฯ กล่าว
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน