(28 ก.พ.65 )เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านนายสมพาส นิลพันธ์ุ ที่ปรึกษาสำนักปลัดนายกรัฐมนตรีถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเวลา 11.53 น.ไปยื่นหนังสือผ่านงานสารบรรณ กระทรวงคมนาคมถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอไม่ให้ยกเลิกการให้บริการรถเมล์ร้อน สาย 7 (คลองขวาง – หัวลำโพง) เนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า จะได้รับความเดือดร้อนอย่างมากกรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จะหยุดการเดินรถเมล์ร้อน สาย 7 ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 เป็นต้นไป ช่วงคลองขวาง-หัวลำโพงซึ่งเป็นรถเมล์ธรรมดา (ร้อน) เก็บค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย วิ่งจากคลองขวางเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ ผ่านตลาดคลองขวางเข้าถนนเพชรเกษม ไปเดอะมอลล์บางแค ผ่านตลาดบางแค ท่าพระ วงเวียนใหญ่ พาหุรัด เยาวราช วงเวียน 22 สถานีรถไฟหัวลำโพง
นายวัชระ กล่าวว่า การที่รถเมล์ร้อน สาย 7 จะหยุดเดินรถในวันนี้เป็นวันสุดท้ายย่อมส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้มีรายได้น้อยนับหมื่นคนที่ต้องเดือนร้อนเพราะต้องใช้บริการรถเมล์ปรับอากาศของเอกชนที่มาวิ่งแทนซึ่งมีราคาแพงกว่ามากเป็นเท่าตัวตั้งแต่ 12-25 บาทซึ่งแพงมากกว่าเดิมกว่า300 % ซึ่งเป็นการบีบบังคับไม่ให้โอกาสทางเลือกแก่ประชาชน
ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนเขตหนองแขม กรุงเทพฯ ขอให้นายกรัฐมนตรี สั่งการให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแลองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มีข้อสั่งการให้รถเมล์ธรรมดา (ร้อน) สาย 7 บริการกับประชาชนผู้มีรายได้น้อยต่อไป ควบคู่กับรถเมล์ปรับอากาศ อันเป็นการเพิ่มโอกาสและทางเลือกแก่ประชาชนภายใต้ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
อนึ่ง ขอให้รัฐบาลช่วยประคับประคองไม่เพิ่มรายจ่ายให้ประชาชน ชาวบ้านเดือดร้อนกันมากไม่เฉพาะชาวหนองแขม คนตัวเล็กตัวน้อยไม่มีปากเสียง เขาบ่นน้อยใจว่าท่านภายใต้รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทอดทิ้งคนยากคนจน หาเช้ากินค่ำจะบังคับให้นั่งรถเมล์ปรับอากาศค่าตั๋วโดยสารแพง ตนจึงอาสามาเป็นปากเสียงให้ชาวรถเมล์ทุกคน หวังว่าท่านคงพิจารณาให้คงรถเมล์ธรรมดา (ร้อน) สาย 7 ไว้ต่อไป รถเมล์สายนี้วิ่งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2519 ถึงปัจจุบันเป็นเวลา 46 ปี บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 03.00-22.00 น.ค่าตั๋วโดยสาร 8 บาทตลอดสาย ส่วนกลางคืนเก็บค่าตั๋วเพียง9.50 บาทเท่านั้น การนั่งรถเมล์ธรรมดา (ร้อน) เว้นระยะห่างไม่ติดโรคโควิด-19 ส่วนรถเมล์ปรับอากาศจะทำให้โรคโควิด-19 ระบาดได้ง่าย