นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคภราดรภาพ กล่าวในกรณีที่กอ.รมน.ลงพื้นที่ตรวจอาคารไทยเฮลท์ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงและเขตหนองแขม กทม. โดยพบว่าอาคารนี้เป็นของนายพันธ์ยศฯ ที่ได้ติดตั้งป้ายข้อความและตราสัญลักษณ์ กอ.รมน. รวมทั้งตราสัญลักษณ์สำนักนายกรัฐมนตรี ใจความในป้ายระบุว่า “ศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์ภาคกลางร่วมกับกอ.รมน.” เเละที่ลานบริเวณอาคารยังมีป้ายข้อความระบุว่า “สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ” โดยมีตราสัญลักษณ์สำนักนายกรัฐมนตรีประกอบในป้าย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกอ.รมน.และทำเนียบรัฐบาล โดยกอ.รมน.และนายพันธ์ยศฯ ได้ลงบันทึกประจำวันในเรื่องนี้ไว้ที่ สน.หนองแขม ไว้แล้วก่อนหน้านี้
นายพันธ์ยศฯ กล่าวว่า ขอเรียนทุกฝ่ายว่า ตนขออภัย ตนดำเนินการไปด้วยความสำคัญผิดเพราะหลงเชื่อคำชักชวนของ นายธนณัฏฐ์ ปิยะสิริพร หรือท็อป ที่เคยมีพฤติกรรมหลอกลวง โกงเงิน และแอบอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองชื่อดังเมื่อหลายปีก่อน และ นายไชยเชษฐ์ ฉัตรวรรณกลาง โดยช่วงต้นเดือนต.ค.64 ทั้งสองคนอ้างว่าเป็นคณะทำงานของ พลตรีนพรัตน์ แป้นแก้ว กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มาทาบทามตนให้ไปทำหน้าที่ข้าราชการฝ่ายการเมือง ในตำแหน่งรองประธานคณะทำงานภาคกลาง คณะทำงานประจำกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และใช้อาคารดังกล่าวเป็นศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์ภาคกลาง แม้ราชกิจจานุเบกษาจะประกาศว่า นายกรัฐมนตรีลงนามให้ พลตรีนพรัตน์ฯ พ้นหน้าที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 3 ก.ย.64 แต่ทั้งสองคนอ้างว่านายอภิชาติ คำดี รองประธานคณะทำงานภาคกลาง คณะทำงานประจำกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จะมารับหน้าที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีแทนพลตรีนพรัตน์ฯ ในเร็วๆนี้
นายพันธ์ยศฯ กล่าวว่า ทั้งสองคนจึงชักชวนตนโดยแอบอ้างนำเอกสารทางราชการมาโน้มน้าวให้ตนกรอกเอกสารเพื่อเสนอชื่อตนให้ไปทำหน้าที่รองประธานคณะทำงานภาคกลาง ศูนย์ยุทธศาสตร์ภาคกลาง และขอให้ตกแต่งอาคารเพื่อใช้เป็นศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์ภาคกลาง
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาตนได้รับการชักชวนจากบุคคลทั้งสองให้ไปร่วมกิจกรรมทางสังคมและการประชุมโดยอ้างสถานะคณะทำงานของพลตรีนพรัตน์ แป้นแก้ว กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง ตนหลงเชื่อจึงดำเนินการตามคำชักชวนของทั้งสองคนโดยไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจน และทั้งสองคนยังหลอกลวงตนให้สนับสนุนการใช้งบประมาณปรับปรุงอาคารรวมทั้งงบประมาณการลงพื้นที่ของคณะทำงานภาคกลาง คณะทำงานประจำกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ไปหลายเเสนบาท โดยทั้งสองคนอ้างว่าหลังเปิดศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์ภาคกลางเรียบร้อยแล้วจะให้เบิกจ่ายงบประมาณต่างๆที่ตนสำรองจ่ายย้อนหลังได้ แต่เมื่อตนดำเนินการไปแล้วกลับไม่มีการใดๆ
นายพันธ์ยศฯ กล่าวว่า ตนพยายามติดตามทวงถามความคืบหน้าจากทั้งสองคน รวมทั้งจากนายอภิชาติฯ เป็นระยะ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงไปมา และเมื่อปรากฏข่าวเกี่ยวกับอาคารของตนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กอ.รมน.มาเชิญตนไปให้ข้อมูลที่ สน.หนองแขมเพื่อชี้แจง ตนได้ไปพบและชี้แจงข้อมูลเบื้องต้น โดยลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เหตุที่ตนชี้แจงเรื่องนี้ล่าช้าหลังปรากฏเป็นข่าวเมื่อหลายวันที่ผ่านมา ตนยอมรับว่า ตนมีความผิด เพราะดำเนินการด้วยความสำคัญผิดด้วบการหลงเชื่อนายธนณัฏฐ์ ปิยะสิริพร และนายไชยเชษฐ์ ฉัตรวรรณกลาง จึงได้ไปรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อมาแจ้งความเอาผิดทั้งสองคน รวมทั้งบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ต่อสน.หนองแขม ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน/ปลอมและใช้เอกสารทางราชการ/แต่งกายเลียนแบบข้าราชการ
“โดยนายไชยเชษฐ์ ฉัตรวรรณกลาง อ้างกับตนว่าเป็นหลานชายของรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งในครม.ชุดนี้ และยังพบว่านายอภิชาติฯ ไปใช้วิธีนี้กับประชาชนในภาคอีสานเมื่อหลายเดือนก่อนโดยมีการแจ้งความไว้แล้ว รวมทั้งยังพบว่ามีการหลอกลวงประชาชนให้ตั้งศูนย์ฯดังกล่าวในหลายจังหวัด เช่นประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร กรณีนี้ตนขออภัยสังคมและส่วนราชการด้วยเพราะไม่ได้มีเจตนาใช้ตราราชการโดยทุจริต ตนหลงเชื่อเพราะอยากทำงานทางการเมืองช่วยสังคม ยอมรับว่า ตนสำคัญผิดและไม่รอบคอบ และขอให้ข้อมูลทั้งหมดต่อสน.หนองแขม เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ตนได้ปลดป้ายดังกล่าวออกจากพื้นที่แล้ว”
นายพันธ์ยศฯ กล่าวว่า ส่วนป้ายข้อความ “สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ” นั้น ตนได้เตรียมดำเนินการถอดป้ายดังกล่าวแล้ว และจากนี้จะส่งหนังสือชี้แจงไปยังผบ.ตร./เลขาธิการกอ.รมน./เลขาธิการนายกรัฐมนตรี/ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและขออภัยในสิ่งที่ดำเนินการไปด้วยความสำคัญผิดในการติดตั้งป้ายทั้งสองแบบในพื้นที่อาคารของตน
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน