13 ต.ค.59 สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทรงโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนพระองค์ ระบุว่า ทรงรับทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความเสียพระราชหฤทัยอย่างสุดซึ้ง สมเด็จพระราชาธิบดี , สมเด็จพระราชบิดา และพระบรมวงศานุวงศ์ พร้อมคณะสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล รวมถึงชุมชนคนไทยในภูฏาน ได้ร่วมกันจุดดวงประทีป 1,000 ดวง พร้อมสวดมนต์เพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วิหารเกนราแห่ง ทาชิโชซอง ในกรุงทิมพู เมืองหลวงของภูฏาน
สมเด็จพระราชาธิบดีมีรับสั่งให้จัดพิธีสวดรำลึกเป็นกรณีพิเศษดังกล่าว และให้จุดดวงประทีปทั่วทุกวิหารศักดิ์สิทธิ์ทั่วราชอาณาจักรภูฏาน เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประกาศให้วันที่ 14 ต.ค.นี้ เป็นวันแห่งการไว้อาลัยของชาวภูฏานทั้งประเทศ กำหนดให้ลดธงครึ่งเสา เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระเกียรติคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะให้เป็นวันหยุดราชการ และโรงเรียนทั่วประเทศปิดการเรียนสอน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมกันสวดมนต์เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีจะเสด็จเป็นองค์ประธานในการประกอบพิธีสวดที่สถูปอนุสรณ์สถานแห่งชาติชอร์เตน โดยสมเด็จพระราชชนนีจะเสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีสวดบำเพ็ญพระราชกุศล ณ วิหารเกนราแห่งทาชิโชซอง ทั้งนี้ ตลอดสัปดาห์ถัดไปจะมีการจุดดวงประทีป และสวดบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย ณ วิหารทิมพูทาชิโชซอง , สถูปอนุสรณ์สถานแห่งชาติชอร์เตน , วิหารสำคัญๆทั่วประเทศ ประกอบด้วย ชานกังคาลาคัง , ศาลาไทย , สวนสาธารณะ 100 ปี , พูนาคาซอง , ตรองซาซอง , ตราชิกังซอง , พาโรทักซาง , พาโรกีชู ลากัง , ทาลี ดราซาง , ซัมเซชีพมันดีร์ และพูเอ็นโชลิง ซางโตเปลรี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้นำที่เป็นเอกและทรงดำรงอยู่ในชีวิตของปวงชนชาวไทยทุกคน ทรงอุทิศพระองค์เพื่อสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพสกนิกรแห่งพระองค์ ซึ่งควรค่าแก่การรำลึกเพื่อเชิดชูและเคารพ ราชวงศ์แห่งภูฏานและไทยมีปฏิสัมพันธ์อันอบอุ่นร่วมกันมานานหลายปี เห็นได้จากมิตรภาพที่แนบแน่นระหว่างประเทศทั้งสอง การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งนี้ นำมาซึ่งความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงของปวงชนชาวภูฏาน สมเด็จพระราชาธิบดีและปวงชนแห่งภูฏานทั้งปวง ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังประชาชนไทยผู้กำลังโศกเศร้าทั้งหลายด้วย