วันที่ 7 ม.ค.65 เวลา 10.30 น.ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น.: พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.คมสิทธิ์ รังไสย์ รอง ผบก.น.7 และเจ้าหน้าที่ชุด กก.สส.บก.น.7 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ากัญชาอัดแท่ง จำนวน 240 กก. พร้อมของกลางอื่นๆ ในเขตพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.,พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก,พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ,พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์,พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. เป็นผู้สั่งการให้ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7,พ.ต.อ.คมสิทธิ์ รังไสย์,พ.ต.อ.กุลเชษฐ์ บางพราน รอง ผบก.น.7,พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ ผกก.สส.บก.น.7,พ.ต.ท.สวัสดิ์ ภักดี,พ.ต.ท.ณรงกรณ์ ขันจันทร์,พ.ต.ท.วิษณุวัฒน์ ภูระหงษ์ รอง ผกก.สส.บก.น.7 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ภูมินทร์ คิสาลัง สว.สส.บก.น.7 หัวหน้าชุดพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนนครบาล 7
ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายประกอบด้วย นายอาภากรฯ อายุ 20 ปี,นายสุทธิพงษ์ฯ อายุ 27 ปี และ นายมานพฯ อายุ 48 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาแห้งอัดแท่ง) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีทอง ใส่รวมอยู่ในกระสอบและห่อหุ้มด้วยพลาสติก สีดำอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 6 กระสอบ รวมกัญชาจำนวนทั้งสิ้นน้ำหนักประมาณ 240 กิโลกรัม,รถจักรยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า นูโว สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขพธ 643 ระยอง จำนวน 1 คัน,โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน สีดำ จำนวน 1 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน สีขาว จำนวน 1 เครื่อง,โทรศัพท์มือถือยี่ห้อออฟโป้ เอ53 สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง และ รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลยี่ห้ออีซูซู รุ่นดีแม็ก สีขาว หมายเลขทะเบียน ผฉ 6886 อุบลราชธานี จำนวน 1 คัน โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สืบเนื่องมาจากเจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.บก.น.7 สืบทราบว่ากลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะรับยาเสพติดมาจากแนวชายแดน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม วิ่งผ่าน จ.สกลนคร,จ.ขอนแก่น ลงมา จ.นครราชสีมา ผ่าน จ.สระบุรี เข้าสู่กรุงเทพฯ โดยใช้เส้นทาง ถ.บรมราชชนนี ผ่านพื้นที่ บก.น.7 เข้ามายัง ถ.พุทธมณฑลสาย 4 จุดหมายวัดบางปิ้ง จ.สมุทรสาคร จำนวนหลายครั้ง
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค.65 ได้สืบทราบจากสายลับว่าจะมีการขนส่งลำเลียงยาเสพติด ผ่านเส้นทาง ถ.บรมราชชนนี มุ่งหน้าถ.พุทธมณฑลสาย 4 จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์และดักซุ่มติดตามและพบรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (กระบะ) ยี่ห้อ อีซูซู รุ่นดีแม็ก สีขาว ทะเบียน ผฉ 6886 อุบลราชธานี ตามที่สายลับแจ้งผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่ บก.น.7 จึงได้ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวไปจนถึง วัดบางปิ้ง ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายอาภาพร ลาบสาร (คนขับ) จึงได้หยุดรถและลงมาพร้อมนายสุทธิพงษ์ สีทา (นั่งมาด้วย) เพื่อพบกับ นายมานพ พงษ์ศิริ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น นูโว สีม่วง ทะเบียน ขพธ 643 ระยอง มาจอดเพื่อจะรับยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้า
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวพบยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาอัดแท่ง) จำนวน 6 กระสอบ น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 240 กิโลกรัม พบวางอยู่ภายในห้องโดยสาร (แค๊ป) จำนวน 2 กระสอบ และอีก 4 กระสอบพบท้ายกระบะบรรทุกด้านหลังมีผ้าใบคลุมทับอยู่ จึงได้ทำการจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลาง มายัง กก.สส.บก.น.7 เพื่อซักถามขยายผล โดยนายอาภาพรฯ รับว่าตนได้รับการว่าจ้างจากนายอ้อ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ให้ขับรถยนต์บรรทุกยาเสพติด (กัญชา) จาก จ.นครพนม เพื่อไปส่งต่อที่วัดบางปิ้งฯ โดยได้ค่าจ่าง 10,000 บาท เดินทางมาพร้อมนายสุทธิพงษ์ฯ ซึ่งเป็นสาวประเภทสองที่เป็นคนรักที่อยู่กินกันมาประมาณ 1 ปี แล้ว ซึ่งนายอ้อฯ จะสั่งการมาทางโทรศัพท์ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ว่าจะมีผู้มารับยาเสพติด (กัญชา)ไปแต่ตนไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในวันเวลาดังกล่าวและนายมานพฯ ให้การว่าตนได้รับว่าจ้างเป็นเงิน 13,000 บาทจากนายสันติ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งตนรู้จักผ่านทางเพื่อนที่ชื่อทัก (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ให้ตนไปเฝ้ารถยนต์ที่บรรทุกยาเสพติด (กัญชา) เมื่อมีคนนำมาจอดที่วัดบางปิ้งฯ โดยสันติจะติดต่อกับตนผ่านทางไลน์ และบอกว่าวันนี้เวลาประมาณ 16.30 น. จะมีชายและสาวประเภทสองขับรถยนต์ กระบะ สีขาว ทะเบียน ผฉ 6886 อุบลราชธานี มาจอดที่วัดบางปิ้งฯ ตนจึงขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปสอบถามและตนได้โทร.ไลน์ หานายสันติฯ เพื่อยืนยันรถยนต์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน จากนั้นจึงชุดจับกุมจึงได้บันทึกจับกุม/ยึดทรัพย์ และนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่ง สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่
Cr.ทีมประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานท์ รายงาน