South China Strategic Situation Probing Initiative (SCSPI) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านคลังสมองของจีนในกรุงปักกิ่ง ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ พบว่า ในปี 2021 (พ.ศ.2564) สหรัฐฯ ยังคงดำเนินกิจกรรมทางทหารอย่างเข้มข้นในทะเลจีนใต้โดยมุ่งเป้าไปที่จีน รวมถึงการปฏิบัติการลาดตระเวนอย่างใกล้ชิด การผ่านช่องแคบไต้หวัน มีการเคลื่อนกำลังเชิงยุทธศาสตร์ ที่เรียกว่าเสรีภาพในการเดินเรือ รวมทั้งมีกิจกรรมการซ้อมรบ และการสร้างสนามรบ โดยเฉพาะเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการสอดแนมทางอากาศอย่างใกล้ชิดต่อจีนประมาณ 1,200 ครั้ง โดยบางลำเข้าใกล้ 20 ไมล์ทะเลจากเส้นฐานอาณาเขตของจีนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งกลุ่มเรือรบสะเทินน้ำสะเทินบกก็เตรียมพร้อมในการบุกทะเลจีนใต้ 13 ครั้ง และพบเรือดำน้ำโจมตีที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ อย่างน้อย 11 ลำ ในทะเลจีนใต้หรือใกล้กับทะเลจีนใต้
จึงคาดการณ์ว่ากิจกรรมทางทหารของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้าไปที่จีนจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2022 (พ.ศ.2565) และเห็นว่าจีนควรพยายามปกป้องต่อไป อธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดนโดยการเสริมสร้างการพัฒนาด้านการป้องกันประเทศและความพร้อมรบของกองกำลัง ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันจันทร์ที่ 27 ธ.ค.64 ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ลงนามในร่างกฎหมายป้องกันประเทศฉบับใหม่ โดยอนุมัติการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศมูลค่า 770 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วประมาณ 5% ทำให้การใช้จ่ายทางทหารของสหรัฐฯ ขยายตัวมากขึ้นโดยมุ่งเน้นที่ประเทศจีนโดยเฉพาะ และมีแนวโน้มว่าจะขายอาวุธให้กับเกาะไต้หวันมากขึ้น รวมทั้งช่วยฝึกกองกำลังติดอาวุธของเกาะหรือจัดหาข่าวกรองทางทหาร ตลอดจนขยายการแลกเปลี่ยนทางทหาร รวมถึงการเชิญไต้หวันเข้าร่วมการฝึก Rim of the Pacific ที่นำโดยสหรัฐฯ ด้วย
สรุปโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.globaltimes.cn/page/202112/1243629.shtml )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเส้นทางสายไหม
2/1/2022