หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา “ทีมชาติไทย” พ่ายให้กับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-3 ทำให้ทัพช้างศึกแพ้รวด 3 นัด ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม รั้งบ๊วยของกลุ่มบีอยู่ในตอนนี้
ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลไทยอย่างมากบนโลกโซเชียล โดยความคิดเห็นถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน คือกลุ่มที่โจมตีทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ตำหนิฟอร์มการเล่นของนักเตะ และกลุ่มที่ยังสนับสนุนทีม เพราะเข้าใจดีว่าการแข่งขันรอบนี้มหาโหดแค่ไหน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา “เปิ้ล-อภัสราภา เสนาเมือง” ภรรยาของ “ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” กุนซือทีมชาติไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว plethailand มีใจความว่า
——————————————————————
“คนที่เดินถือปืนลงไปในสนามรบ ไม่ใช่ต้องการแค่-มีใจ-แต่มันต้องมีความเสียสละ มีความรับผิดชอบ มีความอดทน อะไรต่างๆมากมาย ผิดกับคนที่นอนหลบอยู่ในบ้านรอเสียงปืนสงบลง แล้วค่อยเปิดหน้าต่างออกมาดู แล้วจับกลุ่มสนทนากัน อยากบอกพ่อว่า ไม่มีใครที่เดินทางมาไกลขนาดนี้ เพื่อล้มเหลว
สักวัน คนก็คงลืมว่า พ่อเคยพาทีมผ่านเข้ารอบที่ 3 นี้มา..
สักวัน คนก็คงจะลืมไปเช่นกันว่า พ่อเคยทำให้เค้ากระโดดกอดกัน ดีใจจนน้ำตาไหลตอนได้แชมป์ซูซูกิ
สักวัน คนก็คงจะลืมไปด้วยว่า พ่อ เคยเป็นโค้ชทีมชาติไทย
แต่อยากบอกพ่ออีกครั้งนะ .. ว่า..
แม่จะไม่มีทางลืม วันที่ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่ แล้วพ่อเก็บตัวอยู่ แล้วพ่อโทรมาถามอาการลูกทุกวัน
แม่จะไม่มีทางลืม วันที่ลูกได้รับรางวัล แล้วพ่อเก็บตัวอยู่ และพ่อก็บอกว่าพ่อขอโทษที่ไม่ได้ไป
แม่จะไม่มีทางลืม วันที่ลูกเปิดเทอมมัธยมวันแรก และพ่อก็เก็บตัวอยู่ ลูกบอกว่าอยากให้พ่อไปส่งที่โรงเรียน และพ่อก็บอกว่า พ่อขอทำเพื่อชาติก่อนนะลูก
แม่จะไม่มีวันลืม ภาพที่เห็นจนชินตา ว่าถ้ามีแฟนบอลแม้คนเดียวที่ยืนรอพ่ออยู่ พ่อก็จะเดินเข้าไปหา หรือยิ้มให้เค้าเสมอ
แม่จะไม่มีทางลืม วันที่แม่ถามพ่อว่า “พ่ออยากเป็นโค้ชทีมชาติไทยเหรอ” และพ่อก็บอกแม่ว่า “พ่ออยากเข้ามา เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน”
ขอบคุณที่พ่ออนุญาติให้แม่และลูกๆเดินตามหลังพ่อ เพื่อเป็นเศษเสี้ยวของสิ่งที่พ่อทำ มันทำให้แม่เห็นว่า คุณค่าของตัวเราอยู่ที่ตรงไหน .. ขอบคุณนะ”
——————————————————————
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของทีมชาติไทย จะพบกับ อิรัก (เตะสนามกลางที่อิหร่าน) ในวันอังคารที่ 11 ตุลาคมนี้