รศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้รับเชิญเป็นวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ผู้หญิงยุคใหม่บริหารด้วยหัวใจ” ให้แก่ผู้บริหารของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ที่เข้าร่วมอบรมตามกิจกรรมเสริมสร้าง “การพัฒนาภาวะผู้นำ” รุ่นที่ 2 (Young CEO) โดยมี นพ. อรรถพล เกิดอรุณสุขศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ กล่าวต้อนรับและรายงานความสำคัญ วัตถุประสงค์ของกิจกรรมการอบรมดังกล่าว พร้อมด้วย นพ.ภูริทัต แสงทองพานิชกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลร่วมให้การต้อนรับ
รศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล กล่าวในการบรรยายว่า ผู้นำ (Leader) คือ บุคคลที่มีอิทธิพลต่อผู้อื่น สามารถชี้นำ กระตุ้นการทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายขององค์กร และภาวะผู้นำ (Leadership) คือ ความสามารถในการปฏิบัติงานของผู้นำ ผู้บริหารจึงต้องเป็นผู้นำที่ดี ดังนั้น ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จต้องเป็นผู้บริหารที่มีภาวะผู้นำ หมายความว่า บุคลากร หรือทีมงานในองค์กรต้องการ “ผู้นำที่มีหัวใจ” คือ ผู้นำที่รับฟัง ใส่ใจ เข้าใจ นำพาองค์กรไปอย่างมีคุณค่า
ผู้นำยุคใหม่ไม่ใช่คนสั่งการ แต่เป็นคนที่สามารถดึงศักยภาพทีมงาน หรือพนักงานแต่ละคน ซึ่งนอกจากหน้าที่เฉพาะของตนเองแล้ว พนักงานยังสามารถช่วยเหลือกันได้ และสามารถนำทีมทำงานได้หลายอย่าง (Multitask) การบริหารประกอบด้วยการวางแผน (Planning) การจัดองค์กร (Organizing) การสั่งการ หรือการอำนวยการ (Directing) และการควบคุม (Controlling) โดยมีความเชื่อมโยงกับการจัดการทรัพยากรขององค์กร (Man) เงิน (Money) วัตถุดิบ (Material) เครื่องจักร (Machine) วิธีการ (Method)
รศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล กล่าวอีกว่า การบริหารเป็นการให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ดำเนินการเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น ดังนั้น การบริหารของผู้นำยุคใหม่จึงต้องสร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจ (Trust) ให้กับลูกทีม โดยการจะสร้างความเชื่อมั่น หรือไว้ใจ (Trust) ได้นั้น ผู้บริหารต้องสร้างจากตัวตนที่แท้จริง หรือที่มาจากภายในจิตใจของผู้นำ นั่นก็คือ ความเป็นตัวตนของผู้นำ (real you) ซึ่งต้องจริงใจอย่างแท้จริง ไม่ทำตามกระแส ผู้นำยุคใหม่ต้องมีความเข้าอกเข้าใจ (empathy) ต้องมีความเป็นนักสื่อสาร (communication) และต้องสามารถรวมทีมใช้ศักยภาพของทีมงานให้เป็น รวมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเสนอไอเดีย หรือความคิดเห็นได้
“ก่อนที่เราจะให้คนอื่นเชื่อมั่นเรา เราต้องเชื่อมั่น ภูมิใจในตนเองก่อน” อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี กล่าว
การบรรยายดังกล่าวได้รับความสนใจจากบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ที่เข้าอบรม และผู้ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังการบรรยายจำนวนมาก หลังการบรรยาย อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีได้นำผู้เข้ารับการอบรมร่วมกิจกรรม Workshop “สะท้อนตัวตน” ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับความสนุกสนานเป็นกันเองเน้นความสัมพันธ์ในการพัฒนาด้านอารมณ์และด้านสังคม นอกจากนี้ รศ.ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล ได้มอบทุนจับสลากเงินรางวัลให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้ารับฟังบรรยายในโอกาสเทศกาลปีใหม่ด้วย โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่ห้องประชุมพระเทพประสิทธิมนต์ 71 อาคารภูมิพิพัฒน์ โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564