ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ หลังจากการรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อเดือน พ.ย.64 เกี่ยวกับอำนาจทางทหารของจีน โดยสรุปว่า จีนเตรียมเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ มากขึ้นในพื้นที่ที่ต้องให้ความสนใจและเตือนถึงการที่จีนน่าจะมีหัวรบนิวเคลียร์อย่างน้อย 1,000 หัวรบภายในปี 2030 (พ.ศ.2573) นั้น Lloyd Austin รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ในวันเสาร์ที่ 4 ธ.ค.64 ณ Regan National Defense Forum ใน Simi Valley รัฐแคลิฟอร์เนียว่า สหรัฐฯ ไม่เคยกลัวการแข่งขันและไม่หวาดกลัว
ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้เดินทางไปกรุงโซล และได้พบกับรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ โดยในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ เมื่อวันพุธที่ 1 ธ.ค.64 รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้กล่าวยอมรับถึงความสามารถในการทดสอบความเร็วเหนือเสียงของจีนที่น่าวิตกกังวล โดยสหรัฐฯ ได้เพิ่มความพยายามเพื่อตอบโต้การผงาดขึ้นของจีนในฐานะอำนาจทางการทหาร ด้วยการทุ่มเงินจำนวนที่มากขึ้นในการวิจัยและพัฒนารวมทั้งทดสอบระบบใหม่ๆ ที่จะช่วยให้สหรัฐฯ มีความสามารถมากขึ้นโดยเฉพาะระบบอาวุธที่ร้ายแรงจากระยะไกล รวมทั้งเทคโนโลยีการพรางตัวและการโจมตีจากอวกาศ เพื่อรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยี ซึ่งจะทำให้สามารถรักษาความได้เปรียบทางการทหารไว้ได้
นอกจากนี้ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับพันธมิตรในอินโด-แปซิฟิก รวมถึงการขยายตัวของพันธมิตรดั้งเดิมและความพยายามใหม่ ๆ เช่น AUKUS (ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ) และ Quad (สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดีย และออสเตรเลีย) ซึ่งไม่ควรถูกมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวในสงครามเย็นครั้งใหม่ และสหรัฐฯ ไม่ได้พยายามสร้างแนวร่วมต่อต้านจีน ตลอดจนไม่ได้ขอให้ประเทศต่างๆ เลือกระหว่างสหรัฐฯและจีน แต่สหรัฐฯ กำลังดำเนินการเพื่อพัฒนาระบบระดับสากลที่มีเสรี มีเสถียรภาพและเปิดกว้าง
สรุปโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.voanews.com/a/us-not-panicking-over-china-s-newfound-military-might/6339622.html )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเส้นทางสายไหม
8/12/2021