ที่บ้านลาด ต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บุกไร่กาแฟของคนไทบ้าน ยอดขายลดลงจากพิษโควิด-19 ของนายนิวัฒน์ นุราช เจ้าของไร่กาแฟชายคากาแฟ@เลย พาเดินชมภายในไร่กาแฟบรรยากาศแบบไทบ้านอีสาน ได้เล่าให้ฟังว่าเป็นคนชอบดื่มกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และก็มีที่ดินที่ว่างเปล่าประมาณ 27 ไร่ จึงคิดวางแผนปลูกกาแฟร่วมกับครอบครัวเมื่อ 7 ปีที่แล้ว โดยได้ต้นพันธุ์กาแฟสายพันธุ์ โรบัสต้าจากเพื่อนๆที่ปลูกในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 4,000 ต้น ราคาต้นละ 10 บาท เริ่มแรกก็ประสบปัญหาเนื่องจากต้นกาแฟตายลงจากการขาดน้ำ จึงศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมจนค้นพบแนวทางการบริหารจัดการต้นกาแฟให้สู้ทนแล้งได้ เพราะต้นกาแฟปลูกในพื้นที่ จ.เลย นั้น ช่วงหน้าแล้งจะต้องให้น้ำเพื่อช่วยให้ต้นกาแฟทนต่อสภาพอากาศที่ร้อน โดยการขุดน้ำบาดาลโดยการใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยในการดึงน้ำจากพื้นที่ต่ำขึ้นไปช่วยกระจายน้ำน้ำเพื่อรดต้นกาแฟในที่สูง ปล่อยให้ไหลลาดลงมาจำลองเหมือนธรรมชาติ ทำให้ดินมีความชุ่มชื่นตลอดเวลา หลังจากผ่านไป 3 ปี ต้นกาแฟเริ่มออกผลผลิตอาจจะยังไม่มาก แต่ทำให้เจ้าของไร่พอได้มีรอยยิ้ม จนเก็บผลผลิตมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ผ่านมามีประชาชน นักศึกษา รวมถึงชาวต่างชาติ เข้ามาเยี่ยมชมและชิมกาแฟจนถึงไร่
นายนิวัฒน์ นุราช เจ้าของไร่กาแฟชายคากาแฟ@เลย กล่าวว่าเริ่มดำเนินการปลูกตั้งแต่ปี 2557 พื้นที่เพาะปลูกประมาณ 27ไร่ ให้ผลผลิตประมาณ 5 ตัน ต่อปี เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในปีที่ 3 ระยะเวลาเก็บเกี่ยว ระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 185 กิโลกรัม ต่อไร่ ผลผลิตเกือบทั้งหมดจำหน่ายในรูปของกาแฟคั่วบรรจุถุง กิโลกรัมละ 500 บาท สารกาแฟ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 140 บาท ต่อกิโลกรัม จำหน่ายให้แก่พ่อค้าทั่วไป ส่งขายให้กับโรงงานแปรรูป ส่วนผลผลิตที่เหลือแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น เมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟสด กาแฟคั่วบดในซองดริป ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ชายคากาแฟ@เลย Chaykha Coffee ” โดยจำหน่ายผ่านหน้าร้าน ชายคากาแฟ@เลย Chaykha Coffee ตั้งอยู่ในบ้านลาด ต.โคกขมิ้น อ.วังสะพุง จ.เลย และผ่านทางออนไลน์ facebook ชายคากาแฟ@เลย Chaykha Coffee ปัจจุบันสินค้ามียอดสั่งซื้อ ที่ลดลงจากพิษโควิด-19 สำหรับกาแฟโรบัสต้าของนายนิวัฒน์ นุราช เจ้าของไร่กาแฟชายคากาแฟ@เลย เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟบ้านลาด นอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องของการเป็นกาแฟออร์แกนิก 100% แล้ว ยังให้ความใส่ใจการผลิตในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูก ดูแลรักษา จนถึงเก็บเกี่ยว การดูแลรักษาต้นกาแฟมีการตัดแต่งกิ่งให้เหมาะสม และรดน้ำพรวนดินอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ต้นกาแฟแข็งแรงไม่มีโรครบกวน ส่วนการเก็บเกี่ยวจะคัดเลือกเก็บเฉพาะเมล็ดที่สุกแล้วเท่านั้น เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ และ ได้รับการคัดสรรเป็นผลิตภัณฑ์ รองชนะเลิศการประกวดกาแฟจังหวัดเลยอีกด้วย
__ “กาแฟออร์แกนิก” (Organic Coffee) เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับกระแสความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นกาแฟที่ปลูกโดยวิธีทางธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงตอบโจทย์ผู้บริโภคกาแฟที่รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี เกษตรกรจึงหันมาปลูกกาแฟเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดเลยเป็นแหล่งผลิตกาแฟที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโรบัสต้าออร์แกนิก 100% จนประสบผลสำเร็จ ของจังหวัดเลย ถือเป็นต้นแบบของเกษตรกรเพื่อพัฒนาผลผลิต สร้างรายได้ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ร่วมกันของเกษตรกรในพื้นที่อีกด้วย
ภาพ / ข่าว : ไทบ้าน นิวส์ (พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร)