บริษัท Nikkei BP มีสื่อและบริการอันหลากหลายที่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับข้อมูล ในสาขาที่มีความเฉพาะเจาะจงและทันสมัยต่างๆ มากมาย ล่าสุด Nikkei BP ได้เปิดตัวระบบการตลาดใหม่ เพื่อรับประกันการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ โดยระบบนี้มีการจัดทำแล้วเสร็จภายใน 3 เดือนเท่านั้น ทั้งนี้ต้องขอบคุณการพัฒนาระบบที่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับการทำงานกันอย่างใกล้ชิดกับคู่ค้าอันมีประสิทธิภาพอย่าง บริษัท ฟูจิตสึ นอกจากนี้ Nikkei BP ยังมีการใช้ Business Intelligence (BI) ร่วมกับ ระบบการตลาดใหม่นี้ด้วย เพื่อสร้างฐานข้อมูลรวมที่มีการบูรณาการข้อมูลคุณลักษณะของลูกค้าที่เคยอยู่กระจัดกระจายตามระบบและแหล่งข้อมูลที่แตกต่างกันหลายๆ แห่งเข้าด้วยกันผลลัพธ์ที่ได้ คือช่วยให้การจัดทำแคมเปญการตลาดของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพสูงขึ้นถึงสองเท่าไม่มีโซลูชั่นไอทีใดที่รองรับการทำการตลาดได้อย่างสมบูรณ์แบบเรายังคงเพิ่มประสิทธิภาพจัดทำแคมเปญทางการตลาดโดยใช้วิธีการที่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เพื่อการพัฒนาต่อไปในอนาคต
นาย โทโมโยกิ นาริตะ ผู้จัดการทั่วไปประจำแผนกการสนับสนุนการตลาด บริษัท Nikkei Business Publications, Inc. (ชื่อย่อว่า Nikkei BP) กล่าวว่า เพื่อตอบสนองกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บริษัทNikkei Business Publications, Inc. เป็นบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ในเครือบริษัท Nikkei Inc. และมีความเชี่ยวชาญในการผลิตสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการและเทคโนโลยี นอกเหนือจากการตีพิมพ์หนังสือและนิตยสาร รวมถึงเนื้อหาบนเว็บไซต์แล้ว บริษัท Nikkei BP ยังได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและบริหารจัดการงานอีเวนต์ต่างๆ อย่างงานนิทรรศการแสดงสินค้าและสัมมนาทางการตลาดขนาดใหญ่มากมาย ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทฯ ยังมีการจัดจำหน่ายสื่อสิ่งพิมพ์ประมาณ 40 ฉบับ และมียอดผู้อ่านประมาณ 2 ล้านคน
ในส่วนของ เนื้อหาบนเว็บไซต์นั้นมียอดผู้เข้ามาอ่านประมาณ 125 ล้าน Page View ต่อเดือน โดยมีคนที่ทำงานในวงการธุรกิจจำนวนมากที่ต้องอาศัยบริการของ Nikkei BP ในการรับรู้ข้อมูลด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสำหรับบริษัทNikkei Group นั้นมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีระดับโลก ส่วน Nikkei BP เป็นบริษัทที่ดูแล รับผิดชอบหลักๆ ในธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ในปัจจุบัน บริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วโลก กำลังเจอสภาวะกดดันอย่างหนักในด้านธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่บริษัทใหญ่ อย่าง Nikkei BP เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนสูง และเทคโนโลยีก็มีการรุดหน้าจนฉุดไม่อยู่ คนในวงการธุรกิจต้องการเข้าถึงความรู้แบบเฉพาะทางและมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น ซึ่งธุรกิจของ Nikkei BP จะเติบโตได้ ก็ต้องอาศัยความสามารถของบริษัทฯ ที่ให้ข้อมูลได้ตรงจุดในสิ่งที่ผู้อ่านต้องการรู้จริงๆการวิเคราะห์ลูกค้า เพื่อการสร้างแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท Nikkei BP ได้เปิดตัวระบบการตลาดใหม่ล่าสุดเพื่อยังคงรุดหน้าเติบโตต่อไปในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้งโดยมีการสร้างฐานข้อมูลของระบบใหม่บนแพลตฟอร์มคลาวด์ เพื่อรวมข้อมูลผู้สมัครสมาชิกนิตยสาร สมาชิกคอนเทนต์ทางเว็บไซต์ ประวัติการเข้าดูเนื้อหา และรายชื่อผู้เข้าร่วมนิทรรศการผลิตภัณฑ์และสัมมนา ซึ่งแต่ก่อนข้อมูลเหล่านี้จะกระจัดกระจายอยู่ตามระบบต่างๆ มากมาย ฐานข้อมูลดังกล่าวเปิดโอกาสให้บริษัท บริหารจัดการข้อมูลในที่เดียว ในปัจจุบันNikkei BP สามารถใช้เครื่องมือ BI เพื่อระบุกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่มีความสำคัญ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสมัครสมาชิกเพื่อขอรับข้อมูล หรือเข้าร่วมในงานสัมมนาของบริษัทฯ เครื่องมือนี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่เจาะตลาดลูกได้ถูกกลุ่มมากขึ้น Nikkei BPสามารถรวบรวมข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับลูกค้า ซึ่งยังไม่เคยมีการใช้มาก่อนได้เป็นจำนวนมาก โดยมีเงื่อนไขว่าลูกค้ากลุ่มนี้ต้องเคยมีการสมัครสมาชิกคอนเทนต์เว็บไซต์ หรือลงทะเบียนเข้างานสัมมนาเข้ามาแล้ว ตัวอย่างข้อมูลดังกล่าว เช่น ชื่อ ที่อยู่ ชื่อนายจ้าง บริษัทที่ทำงานแผนกที่ทำงาน ตำแหน่งงาน และข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อมูลของผู้สมัคร ข้อมูลของผู้เข้าร่วมงานสัมมนา และข้อมูล บันทึกเบราเซอร์นั้นมีการบริหารจัดการในระบบที่แยกกัน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทไม่สามารถใช้งานข้อมูลที่มีค่าเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการทำการตลาดที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายถูกกลุ่มได้ทันเวลา
” บริษัท Nikkei Business Publications ยอมรับว่า บางครั้งเราต้องใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์ในการดึงข้อมูลของลูกค้าที่สมัครสื่อดิจิตอลไอที และลูกค้าที่สมัครอ่านวารสารคอมพิวเตอร์ของเรา เมื่อเราเริ่มใช้ระบบใหม่ของเรานั้น เราสามารถวิเคราะห์ข้อมูล สมาชิกนิตยสารผู้เข้าร่วมสัมมนา และผู้ที่เข้ามาดูสื่อดิจิตอลของเราข้ามไปมากันได้ ซึ่งช่วยให้เราสามารถสร้างรายชื่อของกลุ่มที่อาจจะเข้ามาเป็นลูกค้าของเราโดยดูจากประวัติการใช้งานของแต่ละบุคคล” นาย โทโมโยกิ กล่าว
ด้วยระบบใหม่นี้ บริษัท Nikkei BP สามารถพัฒนาความแม่นยำในการระบุข้อมูลลูกค้าได้มากขึ้น Hajime Matsubayashiผู้จัดการกลุ่มประจำแผนกการสนับสนุนการตลาดสำหรับลูกค้าของบริษัท Nikkei Business Publications กล่าวในการแถลงการตีพิมพ์วารสารทางธุรกิจฉบับใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2015 ว่า “เรามีจำนวนการสมัครสมาชิกเพิ่ม ขึ้นสองเท่า แม้ว่าเราได้ส่งอีเมลออกไปหาลูกค้าในจำนวนเท่าแต่ก่อน” ในการกระตุ้นให้มีจำนวนผู้สมัครมากขึ้น ระบบใหม่ยังต้องเปิดโอกาสให้ บริษัทฯ ใช้โมเดล”คล้ายกัน (Look-alike)” ซึ่งเป็นโมเดลที่ช่วยให้บริษัทฯ สร้างรายชื่อคนที่อาจจะเป็นลูกค้าในอนาคต โดยระบุชื่อคนที่เคยเข้าร่วมงานสัมมนา หรือดูคอนเทนต์เดียวกับลูกค้าที่ลงทะเบียนแล้วดูการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วช่วยให้ Nikkei และฟูจิตสึ เปิดใช้งานระบบใหม่ได้ภายใน 3 เดือน ทว่าการนำระบบการตลาดใหม่นี้มาใช้ไม่ได้ส่งผลดีต่อแคมเปญการ ตลาดของบริษัทฯ อย่างเดียวเท่านั้น โดยสิ่งที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้นคือการพัฒนาระบบที่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาอันสั้น
ฟูจิตสึระบุในข้อเสนอว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะมอบผลลัพธ์ที่เห็น ได้จริงทุกๆ 3 เดือนให้กับลูกค้า Nikkei BP ตอบรับข้อเสนอนั้น และ เริ่มต้นการบูรณาการฐานข้อมูลในเดือนมีนาคม 2015 ส่วนการติดตั้งเครื่องมือ BI แล้วเสร็จภายใน 6 สัปดาห์เท่านั้น ส่งผลให้บริษัทสามารถยกระดับประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดได้ตามที่กล่าวไปข้างต้นนอกจากการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ล้ำสมัยอย่างเครื่องมือ BI แล้ว ยังมีการมอบหมายให้วิศวกรของฟูจิตสึผู้ที่มี ความรู้ความเชี่ยวชาญด้าน การทำการตลาดดิจิตอลเข้ามาช่วย Nikkei BP ในส่วนของการรวมความต้องการของนักการตลาดเข้าไปในระบบใหม่นี้อย่างรวดเร็วด้วยNikkei BP และฟูจิตสึทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวในการพัฒนาระบบที่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ซึ่งช่วยเร่งการส่งมอบระบบ ให้เร็วขึ้นอย่างมาก
โดยระบบใหม่มีการอัพเดตในช่วงเวลาที่รวดเร็ว หลังจากที่มีการบูรณาการฐานข้อมูลแล้ว และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในเดือนธันวาคม 2015 อย่างไรก็ดี Narita กล่าวว่า “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นการเดินทางของเราเท่านั้น” Nikkei BP กำลังจะขยายประโยชน์ของระบบการตลาด ใหม่นี้ให้กับพนักงานด้านการตลาด 200 คนทั่วทั้งบริษัท และยังวางแผนที่จะพัฒนาระบบการตลาดไปเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น การปรับปรุงฐานข้อมูลที่มีการบูรณาการข้อมูลให้มีประสิทธิภาพขึ้น และการพัฒนาฟังก์ชั่นการทำการตลาดอัตโนมัติ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็ยังมีโครงการริเริ่มที่จะทำให้ระบบที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบใหม่นี้มีความทันสมัยขึ้น โดยมุ่งหวังที่จะพัฒนาคุณภาพของ ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพขึ้นนั่นเอง