“ตลอดเวลา 12 ปีที่เราทำงานในวงการนี้มาแพนได้โอกาสดีๆ เสมอ แต่พอวันที่เราพอมีกำลังจะทำกลับคืนได้เราก็ควรจะทำ คนจะมองแพนทำเพราะสร้างภาพหรือสร้างกระแส อันนี้ก็แล้วแต่คนจะมอง”
นั่นเป็นคำพูดของนักแสดงสาว “แพนเค้ก เขมนิจ” ที่เผยให้ที่ทีมข่าว Sanook! News ทราบระหว่างที่ร่วมเดินทางไปเก็บบรรยากาศการถ่ายทำซีรี่ส์ “นางฟ้าไร้ปีก” ที่ออกอากาศทางช่อง Ture4u ณ ประเทศฮ่องกง โดยเธอเปิดใจเล่าว่าบ่อยครั้งที่เห็นเธอช่วยเหลืองานสังคมต่างๆ มากมายนั้นเกิดขึ้นจากความตั้งใจอยากทำความดีคืนสู่สังคมไม่ใช่การสร้างภาพเพื่อตัวเอง
“จริงๆ งานช่วยเหลือสังคมต่างๆ แพนทำมาตั้งนานแล้วถามว่าทำไมต้องทำ คือตัวแพนรู้สึกว่ามันมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เราทำกลับคืนสังคมได้เราก็ควรทำ บ้านแพนก็ทำกันมาเรื่อยๆ มันก็ต่อยอดให้เราได้ทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น ซึ่งคนก็เห็นว่าเราทำจริง แรกๆ ก็จะมีคนมองว่าทำเพื่อสร้างภาพหรือเปล่า หรือเพื่อสร้างกระแสก็แล้วแต่คนจะมอง แต่เราชอบทำและทำจริง ไปในพื้นที่จริงเพราะนั้นมันเป็นตัวเราด้วย 12 ปีที่แพนทำงานเราก็ได้รับโอกาสดีๆ มาเยอะมากจากสังคม
“แต่เมื่อวันที่เรามีกำลังพอที่จะทำคืนกลับไปให้บ้าง อาจจะไม่ได้เป็นเม็ดเงินแต่เป็นกำลังกายกำลังใจ การเป็นผู้ให้เราไม่รู้หรอกว่าวันหนึ่งมันอาจจะสะท้อนกลับมาช่วยเราก็ได้ เราควรคิดในมุมที่ดีและมุมที่บวกไว้ และแพนคิดว่ายิ่งมาทำงานตรงนี้ยิ่งมีอะไรให้เราทำเยอะมาก ถึงไม่ได้ลงไปทั้งตัวอย่างน้อยแค่บอกต่อ แค่เราเชิญชวนคนมันก็เป็นสิ่งที่ดี และเราก็ไม่ได้หวังว่าทุกอย่างต้องเป็นเม็ดเงินเสมอไป งานพวกช่วยเหลือกันบางทีแพนว่ามันทำแล้วมีความสุขเพราะมันทำจากใจ”
นอกเหนือจากการบอกเล่าถึงในการทำงานช่วยเหลือสังคมที่เธอยืนยันว่าเกิดจากความตั้งใจที่จะทำไม่ใช่การสร้างภาพแล้วนั้น เธอบอกให้เข้าใจอีกว่าความสุขของการให้คืออะไร
“แพนว่าการเป็นให้แล้วมันมีความสุข แค่เขายิ้มหรือมีความสุขกับสิ่งที่เราให้มันอาจจะไม่ได้มากมายแต่ใจมันจะฟูขึ้น ที่เราทำให้คนที่เขาได้รับมีความสุข ตัวเราก็รู้สึกว่ามันมีคุณค่า ดั่งคำพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ท่านบอกว่า ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งหาย เพราะฉะนั้นเราก็จะได้ยึดกันเอาไว้ แล้วก็อย่านึกเสียดายให้แล้วมันจะไปไหนต่อ ไม่ต้องคิด เอาแค่ว่าเราตั้งใจจะทำ”
หลังจากนางเอกสาวแพนเค้กเล่าถึงเรื่องราวการทำงานช่วยเหลือสังคมแต่ถูกมองเป็นการสร้างภาพจนกระจ่างในคำตอบ ทีมข่าว Sanook! News จึงชวนเธอพูดคุยต่อถึงเรื่องราว “ชีวิตจริงนางเอก” โดยเธอเล่าว่าชีวิตการเป็นนางเอกของตัวเองนั้นได้เจอและลิ้มลองหลากหลายรสชาติ
“12 ปีชีวิตแพนครบทุกรสมันกลมกล่อมมากมีทุกอย่างให้เราได้เจอแต่ละงานมันไม่ได้มาง่ายๆ เลย แต่เราก็มีความสุขกับบทบาทของเรา แพนได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก และก็เปลี่ยนชีวิตการทำงานแบบจริงจัง ซึ่งมันก็ค่อยๆ ให้เรามีอะไรเรียนรู้และก็พัฒนาไปเรื่อยๆ ชีวิตแพนเปลี่ยนตอนที่ประกวด Super Model มันมีความเปลี่ยนแปลงกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น แพนมีโอกาสได้ทำงานเริ่มบทบาทใหม่ๆ ซึ่งตอนนั้นมันเป็นเรื่องใหม่มากๆ สำหรับเด็กคนหนึ่งในวัยนั้น มันต้องใช้การเรียนรู้และการปรับตัวเยอะมากและก็ต้องดูแลตัวเองไม่ให้หลงซ้ายหลงขวาไป”
นี่แหละ “นางเอก” รับได้ทุกข่าวตอบได้ทุกคำถาม
“ยอมรับว่าแรกๆ ตัวแพนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องเจออะไรมากมายกับข่าวต่างๆ ที่ต้องตอบรายวันในช่วงเวลานั้น เราก็คิดว่าเราต้องทำยังไงในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องจริง หรือไม่ก็ต้องตอบกับคำถามเดิมๆ ซ้ำๆ ซึ่งเราก็รู้สึกว่าเราจะต้องทำไง แต่ที่นี้พอเราเริ่มเข้าใจเราก็จะอยู่กับมันได้อย่างทีความสุข ซึ่งแรกๆ เราจะกลัวการตอบคำถามเวลาโดนอยู่ในวงเหมือนเราต้องขึ้นเขียงเราจะโดนเรื่องอะไรอีก แต่พอเราทำความเข้าใจธรรมชาติของข่าวมันเป็นแบบนี้มันก็เป็นเรื่องสนุกเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นค่ะ”
นี่แหละความท้าทายชีวิต “นางเอก”
“เรารู้ตัวไงว่าเราคงไม่ต้องดังเปรี้ยงเล่นละครติดต่อกันเพื่อให้ทุกคนเห็นกันแต่เราอยู่ในจุดที่ผ่านทำอะไรมาเยอะแล้วพอสมควร และเราก็ผ่านจุดที่เราทำงานเจ็ดวันมาแล้วแพนว่าคนก็รู้จักเราแล้วคนเห็นทั้งการ เดินแบบ ถ่ายแบบ เล่นละคร คนก็เห็นเราในมุมอะไรที่หลากลาย แพนคิดว่ามันคงเป็นจุดที่มันอยู่ตัวมากกว่า และแม้มันจะอยู่ตัวแต่เราก็ยังคงต้องทำต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นก็อาจจะไม่ได้เห็นแพนเดือนเว้นเดือนเหมือนก่อน แต่จะได้เห็นแพนในมุมที่แตกต่างมากขึ้น แพนว่ามันท้าทายแพนมากขึ้นด้วย”
นี่แหละชีวิต “นางเอก” ที่อยากให้เข้าใจ
“แพนก็เป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ที่มาทำอาชีพนักแสดง แพนพยายามจะบอกตัวเองว่าเรามาทำอาชีพนักแสดงแต่เราก็ยังมีทุกๆ ความรู้สึกเหมือนคนทั่วๆ ไป เพียงแต่ว่าเรามีภาพที่คนคาดหวังว่าเราจะเหมือนในทีวี แต่บางมุมเราก็เป็นตัวของเราไม่ได้เสแสร้งว่าเราจะต้องดีต่อหน้าทุกคนหมด แพนอาจจะมีมุมโก๊ะๆ ติ๊งต๊อง บางทีก็นิ่งๆ บ้าง คนก็จะได้เห็นในมุมที่หลากหลาย เราคงไม่ว่ากันถ้าคนจะคิดว่าแพนเป็นคนยังไงเพราะทุกคนก็นานาจิตตังอยู่แล้ว แต่เอาเป็นว่าถ้ามารู้จักกันแล้วตัดสินใจว่าแพนเป็นยังไง”
นี่แหละชีวิต “นางเอก” ที่เลือกแล้ว
“แพนว่ามันคุ้มมากๆ ค่ะ เพราะมันคือชีวิตของเราเลย มันเปลี่ยนชีวิตเรามันคือก้าวแรกของการทำงาน มันเปลี่ยนชีวิตครอบครัว เราดูแลครอบครัวมันแน่นอนว่าเราไม่ได้เดินมาเล่นๆ เราไม่ได้เดินเข้ามาแค่ว่าอยากทำก็ทำไม่อยากก็ไม่ทำไม่ได้ เพราะเราเลือกทำเป็นงานประจำแล้ว แพนว่ามันก็คุ้มค่ากับสิ่งที่เราเสียไป ส่วนสิ่งที่แพนอยากจะเพิ่มเติมจากนี้ไปคือเป็นนักแสดงคุณภาพ ค่ะ”
และนี่ก็เป็นทั้งหมดของการสัมภาษณ์ที่เธอสะท้อนให้เห็นชัดถึงบทบาทการเป็นผู้ให้ รวมไปถึงการถ่ายทอดชีวิตที่มีคำว่า “นางเอก” ค้ำคอซึ่งใครที่ติดตามมาถึงตอนนี้ก็คงจะตอบได้ว่าเธอคือนางเอกตัวจริงหรือแค่สร้างภาพเราเชื่อว่าคำตอบนั้นอยู่ในใจของคุณนั่นเอง!