สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (中共中央总书记) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางลงลึกการปฏิรูปในทุกด้าน ครั้งที่ ๒๒ (中央全面深化改革委员会第二十二次会议)

การประชุมคณะกรรมการกลางลงลึกการปฏิรูปในทุกด้าน ครั้งที่ ๒๒ (中央全面深化改革委员会第二十二次会议) โดย นายสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (中共中央总书记) ประธานประเทศหรือประธานาธิบดีแห่งรัฐ (国家主席) ประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง (中央军委主席) และประธานคณะกรรมการกลางลงลึกการปฏิรูปทุกด้าน (中央全面深化改革委员会主任) เป็นประธานการประชุมฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ ๒๔ พ.ย.๖๔ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. การประชุมคณะกรรมการกลางลงลึกการปฏิรูปในทุกด้านครั้งนี้ ได้พิจารณาและผ่าน “แผนแก้ไขปัญหาสามปีสำหรับการปฏิรูประบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ปี พ.ศ.๒๕๖๔-๒๕๖๖)” (“科技体制改革三年攻坚方案 2021－2023年”) “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเร่งรัดการก่อสร้างระบบตลาดไฟฟ้าแห่งชาติแบบครบวงจร” (“关于加快建设全国统一电力市场体系的指导意见”) และ “ความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งความรับผิดชอบหลัก ระบบนำโดยองค์กรพรรคในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษา (สำหรับการดำเนินการทดลอง)” หรือ “关于建立中小学校党组织领导的校长负责制的意见 (试行)” “ความคิดเห็นในการดำเนินการเกี่ยวกับการฟื้นฟูวัตถุทางวัฒนธรรมและการขยายอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนในระดับสากล” (“关于让文物活起来、扩大中华文化国际影响力的实施意见”) “มาตรการต่างๆ เพื่อสนับสนุน เขตสาธิตนวัตกรรมอิสระแห่งชาติจงกวนชุน เพื่อดำเนินการยกระดับการพึ่งพาตนเองทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพึ่งพาตนเอง และการปฏิรูปนำร่อง” (“关于支持中关村国家自主创新示范区开展高水平科技自立自强先行先试改革的若干措施”)

๒. นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่าจุดประสงค์ของการปฏิรูประบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคือการเสริมสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและความสามารถในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินจากระบบและกลไก โดยเน้นที่เป้าหมายและเชิงปัญหา เน้นที่กุญแจสำคัญในการชดเชยข้อบกพร่อง จุดอ่อน และจุดแข็ง ยึดเป้าหมายและความแม่นยำ เพื่อให้บรรลุผลด้วยการเร่งการจัดตั้งระบบสถาบันที่รับประกันการพึ่งพาตนเองทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับสูง รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการจัดระบบทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

บทสรุป ในการประชุมคณะกรรมการกลางลงลึกการปฏิรูปในทุกด้าน ครั้งที่ ๒๒ นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า จำเป็นต้องเสริมสร้างการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากโบราณวัตถุ พร้อมทั้งคุ้มครองและสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมให้มากขึ้น ยกระดับขีดความสามารถในการศึกษาโบราณวัตถุให้สูงขึ้นและทำให้โบราณวัตถุของจีนเป็นที่รู้จักดียิ่งขึ้นต่อสาธารณชนและในประชาคมระหว่างประเทศ จำเป็นต้องให้การสนับสนุนมากขึ้นแก่เขตสาธิตนวัตกรรมอิสระแห่งชาติจงกวนชุน (中关村国家自主创新示范区) เพื่อให้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากความได้เปรียบด้านทรัพยากรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนสถาบันนวัตกรรมในการดำเนินการปฏิรูปนำร่องการพึ่งพาตนเองทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับสูง และการพึ่งพาตนเอง

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.gov.cn/xinwen/2021-11/24/content_5653171.htm )

นำเสนอ/รายงาน