วันที่ 25 พ.ย.64 เวลา 11.30 น.ณ ลานเอนกประสงค์ บช.น.: พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./รองโฆษก บช.น.,พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.บก.สปพ. ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายกัญชา (ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชา) ในพื้นที่บางขุนเทียน พร้อมของกลางกัญชา จำนวน 600 กิโลกรัม
ตามนโยบายของรัฐบาลให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและก่อให้เกิดอาชญากรรมต่างๆ ขึ้นในสังคมปัจจุบัน และส่งผลผลกระทบต่อประชาชน พร้อมทั้งสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.,พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์,พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผช.ผบ.ตร.ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง
ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล มี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.,พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์,พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์,พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. เป็นผู้ควบคุมสั่งการให้
กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล, พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี,พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์,พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล,พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา,พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.อัครพล โทยะ,พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์,พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร,พ.ต.ท.สุทธิเดช โอฬาริ รอง ผกก.สายตรวจฯ,พ.ต.ต.เชษฐพร บัวจันทร์ สว.งานสายตรวจ 2ฯ ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ณกฤตชัย สุขนิล และ ร.ต.อ.ณรงค์เดช พิทักษ์ประชาชน รอง สว.งานสายตรวจ 2 ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย
ดังนี้ 1.นายธนาคม ยิ่งสุจริตพันธุ์ อายุ 29 ปี,2.นายกริช จ้อยเจริญ อายุ 30 ปี,3.นายภาคภูมิ พริกบัว อายุ 25 ปี,4.นายชัยวัฒน์ ด๊ะวี อายุ 30 ปี และ 5.นายยงยุทธ์ อิ่มลิ้มธาร อายุ 33 ปี พร้อมด้วยของกลาง กัญชาอัดแท่ง จำนวน 600 ก้อน น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัม,กล่องส่งพัสดุ จำนวน 2 แพ็ค,เครื่องปริ้นสลิป จำนวน 5 ม้วน,รถยนต์ จำนวน 3 คัน,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง,อุปกรณ์การแพ็คกัญชาบรรจุกล่องส่งพัสดุไปรษณีย์อีกหลายรายการ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยสามารถจับกุมได้ที่ บ้านเลขที่ 48/15 โครงการบ้านศรีสุข แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ต่อเนื่องลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส พระราม 2 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 19 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.การสายตรวจ บก.สปพ. ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 5 ราย พร้อมของกลาง กัญชาอัดแท่ง จำนวน 616 กิโลกรัม ภายในบ้านพักย่าน จ.นนทบุรี จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายของกลุ่มผู้ต้องหา จนทราบถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าวแล้ว จากนั้นได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรมของขบวนการนี้มาโดยตลอด ทั้งยังได้สืบทราบว่ากลุ่มขบวนการนี้ ได้ใช้บ้านเลขที่ 48/15 โครงการบ้านศรีสุข แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด
ต่อมาวันที่ 23 พ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ ได้ติดตามสังเกตเห็นว่านายกริช จ้อยเจริญ และนายภาคภูมิ พริกบัว ซึ่งเป็นบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวได้ขับรถยนต์โตโยต้า แคมรี่ สีทอง คันทะเบียน ภธ-1715 กรุงเทพฯ ออกจากบ้านหลังดังกล่าวไป ส่วนนายธนาคม ยิ่งสุจริตพันธุ์ อยู่ภายในบ้าน จึงได้เฝ้าติดตามรถคันดังกล่าวไป พบว่านำรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถห้างเทสโก้ โลตัส พระราม 2 และผู้ขับขี่รถยนต์แคมรี่ได้เปลี่ยนมาขับขี่รถยนต์กระบะนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทา คันทะเบียน บษ-831 สกลนคร ที่จอดอยู่ใกล้บริเวณเดียวกัน ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าวมีลักษณะบรรทุกสิ่งของหนัก เป็นสิ่งของห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำทึบ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นกัญชาอัดแท่ง และรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับกลับมาที่บ้านเลขที่ 48/15 โครงการบ้านศรีสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มดูอยู่จึงได้สังเกตเห็นว่าบุคคลภายในบ้านได้ช่วยกันยกขนสิ่งของที่บรรทุกมาเข้าไปภายในบ้านจำนวนหลายรอบ ประกอบกับการติดตามพฤติกรรมเครือข่ายกลุ่มคนเหล่านี้มาโดยตลอด
จึงเชื่อว่าสิ่งของดังกล่าวเป็นกัญชาอัดแท่ง จึงได้แสดงตัวขอเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบเป็นกัญชาอัดแท่งจำนวน 600 ก้อน น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้งหมดรับว่ากัญชาทั้งหมดรับมาเพื่อจำหน่ายทางออนไลน์ ไปรับกัญชาโดยขับรถยนต์โตโยต้า แคมรี่ สีทอง คันทะเบียน ภธ-1715 กรุงเทพฯ ไปจอดไว้ที่ลานจอดรถห้างเทสโก้โลตัส และจะมีคนนำรถยนต์กระบะนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทา คันทะเบียน บษ-831 สกลนคร ที่บรรทุกกัญชามาจอดทิ้งไว้ให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือนายชัยวัฒน์ ด๊ะวี ซึ่งเป็นผู้ที่ขับรถยนต์กระบะขนกัญชามาส่งให้และนายชัยวัฒนฯ รับว่าเป็นผู้ขับรถกระบะขนกัญชามาจาก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มาจริง ในการขนลำเลียงกัญชามาที่กรุงเทพฯนั้นจะมีนายยงยุทธ อิ่มลิ้มธาร เป็นคนขับรถนำ เพื่อตรวจสอบหลบเลี่ยงด่านตรวจต่างๆระหว่างทาง โดยนายยงยุทธฯ จะใช้รถยนต์นิสสัน มาร์ช สีดำ คันทะเบียน ขว-572 นครราชสีมา เป็นคันรถนำ ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการจับกุม นายชัยวัฒน์ฯ อยู่นั้น นายยงยุทธฯ ได้ขับรถยนต์นิสสันมาร์ช คันดังกล่าวหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไป จนสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 130 หมู่ที่ 9 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สอบถามนายยงยุทธฯ รับว่าตนไปรับกัญชามาจาก จ.มุกดาหาร มาไว้ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
จากนั้นได้ให้นายชัยวัฒน์ฯ มาขับรถยนต์กระบะที่ใช้ขนกัญชาขับต่อมาที่กรุงเทพฯ โดยนายยงยุทธฯขับรถยนต์ นิสสัน มาร์ช เป็นรถนำ เพื่อตรวจสอบหลบเลี่ยงด่านตรวจต่างๆ โดยในครั้งนี้ นัดส่งรถที่โลตัสพระราม 2 และจากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดรับว่าได้กระทำความผิดเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง เป็นเวลาประมาณ 5 เดือน จะได้รับค่าจ้าง 50,000-100,000 บาทต่อครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ทำการสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น และผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายอื่นต่อไป
หากประชาชนท่านใด พบเห็น หรือมีเบาะแส เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย หรือพบการมั่วสุม สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191
Cr.ทีมประชาสัมพันธ์ บช.น.,กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191)
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน