หนึ่งในประเพณีไทยที่สืบสานกันมาตราบชั่วหลานชั่วหลาน และเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลกนั่นคือ “วันลอยกระทง” ซึ่งทั่วประเทศต่างพร้อมใจกันจัดงานขึ้นเป็นประจำทุกปี ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “วันเพ็ญเดือนสิบสอง” ในปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๙ เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๔ โดยหนึ่งในสถานที่จัดงานวันลอยกระทงที่จัดกันมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีนั่นคือ “วัดหัวกระบือ” ตั้งอยู่ริมคลองหัวกระบือ ในแขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
ดร.พระครูวิบูลพัฒนกิตติ์ (สละ กตปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดหัวกระบือ กล่าวว่า ประเพณีไทยกับพุทธศาสนามักจะเคียงคู่มาด้วยกันเสมอ เนื่องจากวัดจะเป็นศูนย์รวมจิตใจและศูนย์กลางในการกิจกรรมต่าง ๆ อย่างงานประเพณีลอยกระทงก็มักจะจัดกันในวัดซึ่งมีการทำบุญด้วย เพราะเป็นวันที่ตรงกับวันพระพอดี อย่างที่วัดหัวกระบือ ในวันศุกร์ที่ ๑๙ พฤศจิกายนนี้ ช่วงเช้ามีพิธีทอดกฐินประจำปี ส่วนช่วงเย็นถึงค่ำมีกิจกรรมวันลอยกระทง ใช้ชื่องานว่า “สืบสานประเพณีวัฒนธรรมทางสายน้ำ ลอยกระทง ๒๕๖๔” ซึ่งนอกจากได้ลอยกระทงใน ๒ ฝั่งคลอง ไหว้พระและทำบุญต่าง ๆ เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ เป็นต้น ยังมีสีสันของงานคือการประกวด ๕ ประเภทคือ หนูน้อยนพมาศ,นางนพมาศ,เทพบุตรนพมาศ,นางนพมาศจำแลง และการประกวดกระทงจากวัสดุธรรมชาติ ประจำปี ๒๕๖๔ รวมรางวัลมูลค่ากว่า ๑ แสนบาท
ซึ่งในปีนี้ได้กูรูนางงามระดับประเทศ คุณหนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม มาเป็นแม่ใหญ่จัดงานพร้อมด้วยคุณเรย์-อิสริยา อภิชัย มิสไทยแลนด์เวิลด์ ๑๙๙๑,คุณเชอรี่-ดร.เมลิสา มหาพล มิสไทยแลนด์ ปี ๒๐๐๖, คุณคริส ปัญญา International Pageant Agency,คุณเสก-ทรงสิทธา จันทรา ออแกไนเซอร์มือทอง,คุณบ๊อบ-ดร.จุมพล โพธิสุวรรณ บรรณาธิการข่าว สำนักข่าวบางกอกทูเดย์ กับ คุณหนุ่ย-ดร.กัญฐณา สนเจริญ มาช่วยงานด้านประชาสัมพันธ์,โค้ชปิง-วชิรวิชญ์ ปิติศิริธนบูรณ์ แห่ง SETTAPICHPERFORMING ARTS ACADEMY มาช่วยกำกับเวทีและดูแลผู้เข้าประกวด
ดร.พระครูวิบูลพัฒนกิตติ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้เกียรติมาร่วมตัดสิน นอกเหนือจาก ๒ มิสไทยแลนด์เวิลด์แล้ว ยังมี ครูปิ่น-ปิ่นศิริ ศิริปิ่น ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาศิลปิน SMD ๑๙๘๗,ดร.วโรดม ศิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เก้าสตาร์กรุ๊ป จำกัด,คุณกนกพร ชาวดร Mrs.Grand Prix๒๐๑๙,คุณชยเวศ สมวงศ์ รอง Miss LGBT Thailand ๒๐๑๙ และ คุณ Hotin Author Lo นายแบบ ดำเนินรายการโดย คุณสิทธิพลพร คุณชมภู
“อยากให้ทุกคน โดยเฉพาะพุทธศาสนิกชน ที่นอกจากได้มาร่วมกิจกรรมทั้ง ๒ อย่าง จะได้ชื่นชมกับสิ่งต่าง ๆ ภายในวัดหัวกระบือหรือสมัยก่อนเรียกว่า “วัดศีรษะกระบือ” เนื่องจากภายในบริเวณวัดมีหัวกระบือหรือศีรษะกระบือจำนวนมาก วัดแห่งนี้ที่มีประวัติอันยาวนาน สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายราว ปี พ.ศ.๒๒๘๑ ถึงวันนี้ครบ ๒๘๓ ปีแล้ว”
ทางด้าน คุณหนุ่ม-นันท์นภัทร เจิมจุติธรรม กูรูนางงามระดับประเทศที่ได้มาร่วมจัดงานให้กับวัดหัวกระบือเป็นครั้งแรก กล่าวว่า นับว่าเป็นความกรุณาของ ดร.พระครูวิบูลพัฒนกิตติ์ เจ้าอาวาสวัดหัวกระบือ ที่ให้โอกาสมาช่วยจัดงานประกวดร่วมกัลยาณมิตรหลานท่าน จากการประสานความร่วมมือของคุณเรย์กับคุณคริส ซึ่งจะได้ใช้ประสบการณ์มาช่วยจัดช่วยสร้างสรรค์งานอย่างเต็มที่ รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้มาช่วยงานวัดหัวกระบือซึ่งเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานเกือบ ๓๐๐ ปี และได้บอกกล่าวกับท่านเจ้าอาวาสว่า งานนี้ไม่ขอรับค่าตัวแต่อย่างใด ขอร่วมอนุโทนาเป็นการทำบุญด้วย ตนเองเชื่อว่าด้วยเพราะอานิสงส์ที่ชอบทำบุญอย่างสม่ำเสมอจึงทำให้รอดตายจากการป่วยหนักเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
ทั้งนี้ภายในวัดหัวกระบือมีสิ่งที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
๑.หลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์พระประธานในโบสถ์ เป็นพระพุทธปูนปั้น ศิลปะแบบสุโขทัย พระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยเหตุผลที่เรียกว่าหลวงพ่อโตนั้น เพราะสมัยโบราณเมื่อชาวบ้านเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ก็จะเรียกหลวงพ่อโต ไม่เพียงแค่คนไทยเท่านั้นชาวต่างชาติยังมากราบไหว้ขอพร
๒.พระอุโบสถลอยฟ้า กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินก่อสร้างสำหรับพระอุโบสถจตุรมุขไม้สักทองหลังใหม่ มีจำนวน ๓ ชั้น เมื่อสร้างเสร็จจะกลายเป็นพระอุโบสถลอยฟ้าที่สูงและมีความสวยงามแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครเลยทีเดียว ทั้งนี้พระอุโบสถหลังเดิมมีขนาดเล็กมาก ซึ่งก็เป็นจุดหนึ่งที่มีผู้คนมาเช็คอินกันเป็นจำนวนมาก
๓.วังพญานาคราช เป็นการจำลองลักษณะคล้ายถ้ำมี ๒ ชั้น บริเวณด้านหน้ามีรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ ๒ ตัว เดินเข้าไปภายในจะพบบ่อเลี้ยงขนาดใหญ่เลี้ยงปลาคราฟเป็นจำนวนมาก เมื่อขึ้นไปยังบริเวณชั้น ๒ จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของวัดหัวกระบือและบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้ยังมี นครบาดาลตำนานพญานาค ภายในสถานที่มีรูปปั้นจำลอง อาทิ พญานาคาและพญานาคี ทั้งในรูปลักษณ์นาคและรูปลักษณ์ในภาคมนุษย์
๔.น้ำตกจำลองพร้อมรูปปั้นพญาเต่ายักษ์ โดยที่ใต้ฐานเต่ายักษ์และบริเวณโดยรอบนั้นเป็นศูนย์อนุรักษ์เต่าไทย
๕.กองซากหัวกระบือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และที่มาของชื่อวัดแห่งนี้
๖.ตลาดริมน้ำวัดหัวกระบือ เป็นตลาดริมน้ำที่เกิดจากแนวคิดของเจ้าอาวาสวัดหัวกระบือ พระครูวิบูลย์พัฒนกิตต์ ซึ่งมีแนวคิดที่จะส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนที่อยู่บริเวณคลองหัวกระบือ คลองเฉลิมชัยพัฒนา และบริเวณใกล้เคียง เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจครอบครัว เศรษฐกิจชุมชน ตามหลักการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งเป็นส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ ซึ่งเดิมประชาชนในท้องที่แถบนี้จะขายสินค้าในร้านค้าสองข้างทางของถนนที่ตรงไปยังท่าน้ำคลองหัวกระบือ มีบางส่วนที่ขายสินค้า ผัก ผลไม้ ไอศกรีม เป็นต้น โดยเรืออีแปะพายขายของอยู่ในคลองหัวกระบือ คลองเฉลิมชัยพัฒนา ซึ่งเป็นคลองที่ไปเชื่อมต่อกับคลองสนามชัย คลองบางมด เป็นต้น
๗.สถานที่พักผ่อน บริเวณด้านข้างวัดเป็นสถานที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยวซึ่งมีบึงน้ำบริเวณกว้างใหญ่ มีให้บริการเรือจักรยานน้ำ พร้อมชมและให้อาหารฝูงปลาจำนวนมากมาย ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์
๘.อาณาจักรหมูป่า โดยมีคนนำมามอบให้วัดหัวกระบือ ซึ่งทางวัดได้เลี้ยงไว้ได้กระทั่งแพร่พันธุ์ออกลูกเป็นจำนวนมาก ซึ่งญาติโยมใจบุญคอยเลี้ยงและให้อาหารจนเชื่อง
๙.ไถ่ชีวิตโคกระบือ นับว่าเป็นจุดไถ่ชีวิตโคกระบือที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล
IMG_20210402_124636_00_040.insp