รื้อ‘ม.บูรพา-อุเทนฯ’ถึงคิวงัดม.44จัดระเบียบ ยุติปัญหาขัดแย้งภายใน
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 2/2559 เรื่อง การกําหนดรายชื่อสถาบันอุดมศึกษาอื่น ตามคําสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 39/2559 เรื่อง การจัดระเบียบและแก้ปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบัน
อุดมศึกษาลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2559 มีสาระสำคัญโดยสรุปว่า จากปัญหาขัดแย้งในสถาบันอุดมศึกษาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หัวหน้า คสช.จึงออกคำสั่งให้จัดระเบียบและแก้ปัญหาดังกล่าวออกมา
ต่อมาคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)ได้รายงานพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการว่ายังมีสถาบันอุดมศึกษาบางแห่ง ประสบปัญหาขัดแย้งภายในสถาบันจนไม่สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วงด้วยมาตรการปกติ ถ้าปล่อยไว้จะทําให้เกิดความเสียหายต่อระบบการศึกษา หรือนิสิตนักศึกษาจํานวนมาก จึงอาศัยอำนาจตามวรรค 2 ของข้อ 12 ในคำสั่ง คสช.ที่ 39/2559 ออกประกาศเพิ่มเติมบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวกับมหาวิทยาลัยอีก 2 แห่งคือ มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย มีผลตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่มีคำสั่ง คสช.จัดระเบียบและแก้ปัญหาธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัยเพิ่มเติมอีก 2 แห่งนั้น ในส่วน มทร.ตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ศิษย์เก่า คณาจารย์ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ยื่นหนังสือถึงรมว.ศึกษาธิการให้ใช้อำนาจมาตรา 44 ยุบสภามหาวิทยาลัย หลังพบพิรุธการบริหารงานหลายด้าน อีกทั้งยังมีปัญหาถอดถอนอธิการบดีมิชอบ
ขณะที่กรณีมหาวิทยาลัยบูรพา เกิดปัญหาในการสรรหาอธิการบดีคนใหม่ โดยเฉพาะมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การดำเนินการสรรหาไม่เป็นไปตามครรลองของการสรรหา อีกทั้ง มีกลุ่มบุคคลในมหาวิทยาลัยเข้ายื่นหนังสือให้กระทรวงศึกษาฯช่วยแก้ปัญหาหลายครั้ง
ด้านดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการ กกอ.เปิดเผยหลังคสช.มีคำสั่งเพิ่มเติมว่า โดยหลักการเมื่อมีประกาศ คสช.เรื่องดังกล่าวออกแล้ว สภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่งต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ รอให้รมว.ศึกษาธิการตั้งคณะบุคคลเข้าไปปฏิบัติหน้าแทน รวมถึงอธิการบดีของมหาวิทยาลัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้คสช.มีคำสั่งตั้งคณะบุคคลเข้าไปแก้ปัญหาขัดแย้งและจัดระเบียบมหาวิทยาลัยแล้ว 2 แห่งคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)สุรินทร์ และมรภ.ชัยภูมิ เมื่อมีประกาศล่าสุดออกมา ทำให้มีมหาวิทยาลัยที่ถูกจัดระเบียบเพื่อแก้ปัญหาขัดแย้งภายในรวมทั้งหมด 4 แห่ง