วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ที่วัดโบชถ์ พระอารามหลวง ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้กระทรวงพาณิชย์ โดย พณ.จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
นางวรรณภรณ์ เกตุทัต ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
นางสาวจิตติมา นาคมโน ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง (จร).
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
นางสาวณัฐิยา สุจินดา ผอ. ส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม (สค.)
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า
นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า
นายภาวี โพธิ์ยื่ รักษาการรองผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
นายสเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
พาณิชย์จังหวัดสิงห์บุรี
นางวิมล เจริญฤทธิ์ หัวหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสิงห์บุรี
นายวิจิตร เลิศไพบูลย์วงศ์ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสิงห์บุรี
องค์การบริหารส่วนตำบลอินทร์บุรี
ผู้อำนวยการโรงเรียน วัดโบสถ์อินทร์บุรี
ข้าราชการ และลูกจ้าง น้อมนำผ้าพระกฐินพระราชทานไปถวายพระสงฆ์จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดโบสถ์ พระอารามหลวง ตำบลอินทร์บุรีอำเภออินทร์บุรีจังหวัดสิงห์บุรี
เวลา ๑๐.๐๐ น. พระราชกิตติมงคล รักษาการเจ้าอาวาส วัดโบสถ์ พระอารามหลวง พร้อมพระสงฆ์ ๑๐ รูป ขึ้นอาสนะสงฆ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานในพิธีเดินทางมาถึง ประธานในพิธีถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่ฯ จากนั้นเปิดกรวยดอกไม้ ประธานรับผ้าพระกฐินอุ้มประคองยืนตรง ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ประธานในพิธีอุ้มประคองผ้าพระกฐินประนมมือ นำผ้าพระกฐินไปวางไว้ที่พานแว่นฟ้าซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้าอาสนะสงฆ์ตรงพระรูปที่ 2 ประธานจุดธูปเทียน เครื่องสักการะพระรัตนตรัย ประธานยกผ้าพระกฐินประคองประนมมือหันหน้าไปทางพระประธานแล้วกล่าวนะโม 3 จบ แล้วหันหน้าไปทางพระสงฆ์กล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน จากนั้นวางผ้าพระกฐินบนพานแว่นฟ้าหน้าพระสงฆ์รูปที่ 2 ยกทั้งพานประเคนพระสงฆ์รูปที่ 2 พระสงฆ์กระทำพิธีอุปโลกนกรรมและลงครองผ้า ประธานถวายบริวารกฐินแด่ พระราชกิตติมงคล รักษาการเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ พระอารามหลวง คณะผู้บริหาร กรรมการ กระทรวงพาณิชย์ เข้าถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์จนครบทุกรูปยอดเงินที่มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคทรัพย์สมทบบำรุงบวรพระพุทธศาสนา รวมเป็นยอดเงินทั้งสิ้น 2,547,493.21 บาท และพร้อมกันนี้ได้มีการมอบเงินสนับสนุนบำรุงการศึกษา ให้แก่ข้อมูลรายชื่อผู้รับทุน
โรงเรียนวัดโบสถ์ ( ผอ.ณัฐิกานต์ รักนาค) โรงเรียนอินทร์บุรี (ผอ.นัฐวรรณ ศรีทอง) โรงเรียนวัดโบสถ์อินทร์บุรี (ปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา)
(นายจักรฤกษณ์ มะโนวัน)
ความเป็นมา
วัดโบสถ์เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมากลายเป็นวัดร้างจนถึง พ.ศ.๒๔๑๖ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ จึงมีพระภิกษุ ๓ รูปคือ พระอาจารย์คง พระอาจารย์แผน และพระอาจารย์ต่ายแห่งวัดประยูรวงศาวาส ได้มาถากถางปลูกเป็นกระท่อมพักอยู่ที่วัดโบสถ์นี้ ต่อมาชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดมีจ่าขุนเมือง (นิล) และอุบาสกคำ เป็นหัวหน้าช่วยกันสร้างกุฏิและศาลาให้เป็นที่พำนักอาศัย โดยมีพระอาจารย์คงปกครองวัดอยู่ได้นาน ๔ ปี จึงลาสิกขา พระฉ่ำซึ่งเป็นศิษย์พระอาจารย์คงจึงได้ปกครองวัดต่อมา และขุนจ่าเมืองเป็นหัวหน้าบำรุงอุปถัมภ์วัดให้เจริญในด้านการก่อสร้างขึ้นมาในระยะหนึ่ง เมื่ออาจารย์ฉ่ำมรณภาพพระอาจารย์เอมได้ซ่อมแซมเสนาสนะหลายอย่าง เช่น กุฏิ ศาลา และอุโบสถ โดยมีพระศักดิ์บุรินทร์เป็นหัวหน้าในการสร้างพระอุโบสถด้วย
วัดโบสถ์เดิมเป็นวัดมหานิกาย ภายหลังเปลี่ยนเป็นวัดธรรมยุตเพราะมีพระสงฆ์ วัดโบสถ์ไปเปลี่ยนแปลงเป็นวัดธรรมยุตที่วัดบวรนิเวศวิหารกรุงเทพฯ และได้ศึกษาพระธรรมวินัย กับสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมหมื่นวชิรญาณวโรรส ทรงโปรดและทรงจัดให้พระครูสังฆบริบาล (อิน) นำคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหารอีก ๒ รูปมาอยู่วัดโบสถ์ คือ พระสมุห์ยิ้ม และพระห่วง พร้อมด้วยพระวัดโบสถ์ที่มาศึกษาอีก ๔ รูป คือ พระสบ พระเฟื่อง พระศิษ และพระลา เป็นพระธรรมยุตมาอยู่ในวัดโบสถ์ท เมื่อปีวอก พ.ศ.๒๔๓๘
วัดโบสถ์ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๑ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกขึ้นเป็นอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๕
อนึ่ง เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๑๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬากรณ์ลัยลักษณ์ฯ ได้เสด็จมาทรงตัดลูกนิมิตพระอุโบสถ และได้พระราชทานพระราชทรัพย์ จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท เพื่อบำรุงวัดนี้ด้วย
วัดโบสถ์ก่อนที่จะได้ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงนั้น มีเจ้าอาวาสปกครองมาตามลำดับดังนี้
๑. พระอาจารย์คง ปกครองวัดมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๑๖ เป็นเวลา ๔ ปี
๒. พระฉ่ำ รักษาการเมื่อพระอาจารย์คงลาสิกขา
๓. อาจารย์เอม ปกครองวัดนานถึง ๑๐ ปี และลาสิกขาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๓
๔. พระครูสังฆบริบาล (อิน) เป็นพระธรรมยุติรูปแรกที่ปกครองวัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๓๗ สร้างความเจริญให้กับวัดจนได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสิงหบุราจารย์เจ้าคณะใหญ่จังหวัดสิงห์บุรี ทำให้การศึกษาของวัดเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ปกครองวัดอยู่นาน ๙ ปี ก็ถึงแก่มรณภาพที่ภูมิลำเนาของท่านเมื่อปีมะโรง เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๔๔๗
๕. พระสิงหบุราจารย์ (ลบ ฐิตาโภ) ปกครองวัดตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๔๗ – ๒๔๔๙
๖. พระครูธรรมวรานุยุตต์ (ฟู อาภาคโม) ปกครองวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๗๙ – ๒๕๐๐
๗. พระเทพสุทธิโมลี (ผึ้ง โรจโน) ปกครองวัดตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๐ – ๒๕๒๕
๘. พระราชวินัยเวที ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ตั้งแต่วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๖๒๖ –
ปัจจุบัน เป็นที่ตั้งสำนักเรียนพระ
ปริยัติธรรม สถานที่ศึกษาธรรมะของพระสงฆ์ สามเณร และโรงเรียน
วัดโบสถ์ ระดับประถมศึกษา ปัจจุบันวัดโบสถ์พระอารามหลวง มี พระราช
กิตติมงคล ผู้รักษาการแทน เจ้าอาวาส เป็นเจ้าอาวาสปกครองคณะสงฆ์
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าว ดำเนินการตามมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยเคร่งครัด
กชกร พวยไพบูลย์
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสิงห์บุรี รายงาน