เมื่อวันที่ 3 พ.ย.64 เวลา 14.00 น.: พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.,พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.พลฑิต ชัยยศ ผบก.น.3,พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 และ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ ผกก.สน.ลำผักชี ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาขบวนการลักลอบผลิตธนบัตรดอลล่าห์สหรัฐอเมริกาปลอม ยึดแบงค์ดอลล่าห์ปลอมกว่า 36,000 ใบ รับผลิตมาแล้ว 50,000 ใบ คิดเป็นมูลค่า 5,000,000 ดอลล่าห์หรือคิดเป็นเงินไทย กว่า 150,000,000 บาท
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า ศูนย์ PCT ได้มีการสืบสวนทาง Facebook ชื่อว่า fact eing ซึ่ง น.ส.จิราพัชร (สงวนนามสกุล) หรือ ฟ้า เป็นเจ้าของ พบว่ามีการประกาศขายธนบัตรปลอม จึงได้ประสานกับฝ่ายสืบสวนนครบาล ร่วมกันตรวจสอบ พบว่าเป็นเครือข่ายรับจ้างผลิตธนบัตรดอลล่าห์สหรัฐอเมริกาปลอม โดยผลิตมาแล้วกว่า 50,000 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยกว่า 150 ล้านบาท
ผอ.PCT กล่าวว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ตรวจสอบ และสืบสวนกรณีดังกล่าวจนสามารถขออนุมัติหมายศาลและจับกุม น.ส.พชร หรือ เพชร สงวน นามสกุล ผู้ต้องหาที่ 1,น.ส.อรทัย หรือ หงษ์ ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ศรินรัตน์ หรือ อี๊ด ผู้ต้องหาที่ 3 ได้ โดย ผู้ต้องหาที่ 1,2 ให้การรับสารภาพได้รับการว่าจ้างจากผู้ต้องหาที่ 3 ให้นำธนบัตรปลอมดังกล่าวออกมาจำหน่ายให้กับประชาชนที่สนใจ และ ผู้ต้องหาที่ 3 ยังให้การว่าตนเป็นผู้ว่าจ้างจริงและมี น.ส.จิราพัชร หรือ ฟ้า เป็นผู้ผลิตให้ มีโรงงานผลิตอยู่ที่ จ.นครปฐม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT พร้อมกำลังตำรวจนครบาลนำหมายค้นของศาลเข้าค้นบ้านเลขที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม พบ น.ส.จิราพัชร หรือ ฟ้า สงวนนามสกุล ผู้ต้องหาที่ 4 พร้อมของกลาง คือ แท่นผลิตธนบัตรปลอม จำนวน 1 เครื่อง และ ธนบัตรดอลล่าห์สหรัฐอเมริกาปลอมจำนวน 50,000 ฉบับ จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันผลิตทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ธนบัตร หรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้” จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยผู้ต้องหาขบวนการนี้รับว่าผลิตธนบัตรปลอมนี้เป็นครั้งแรก และยังมีขบวนการที่ร่วมกระทำความผิดอีก ทั้งนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
ผอ. PCT กล่าวอีกว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้ Social Media เป็นจำนวนมาก ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งระดมปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้ ความผิดเกี่ยวกับการปลอม หรือการแปลงเงินตรา ถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน หลังจากนี้จะได้แจ้ง ปปง. ให้ตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีฐานฟอกเงินต่อไป หากพบเบาะแส หรือเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน PCT 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000 หรือ www.pct.police.go.th
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน