วันที่ 14 มิถุนายน คมชัดลึกออนไลน์รายงานว่า นายจอห์น สแกนลอน เลขาธิการอนุสัญญา
ว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืชใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส)
เปิดเผยเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ว่า การล่าช้างเพื่อเอางาในแอฟริกา ยังแพร่หลายในระดับอุตสาหกรรม
เฉพาะปี 2556 ปีเดียว มีช้างถูกล่าเพื่อเอางากว่า 20,000 ตัว รุนแรงที่สุดคือแถบแอฟริกากกลาง
ซึ่งสูญเสียประชากรช้างอย่างน้อย 60เปอร์เซนต์ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ไซเตส ระบุว่า ปี 2554 มีช้างแอฟริกาถูกล่า 25,000 ตัว ก่อนลดลงในปีต่อมาอยู่ที่ 22,000 ตัว
แม้จำนวนช้างที่ถูกล่าในแอฟริกาปีที่แล้ว ลดลงจากสองปีก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในระดับอันตราย
และเกินอัตราการเกิดตามธรรมชาติ ทำให้จำนวนประชากรช้างในแอฟริกาลดลงในภาพรวม
นับจากเริ่มศตวรรษที่ 20 แอฟริกามีช้างประมาณ 10 ล้านตัว ก่อนลดลงเหลือ 1.2 ล้านตัว
ภายในปี 2523 และมาอยู่ที่ประมาณ 5 แสนตัว ในปัจจุบัน หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินอยู่ต่อไป
ช้างในแอฟริกากลางอาจหมดไปใน 10 ปีข้างหน้า
ในแอฟริกาตะวันตก ประชากรช้างเหลือไม่มากนัก อาจกล่าวได้ว่าช้างสูญพันธุ์แล้วในเซเนกัล
เช่นเดียวกับโซมาเลีย และซูดาน ทางตะวันออกของทวีป ประชากรช้างที่พบเห็นได้แห่งเดียว
ในแอฟริกาตะวันตก คือในอุทยานที่คาบเกี่ยวชายแดนโตโก เบนิน บูร์กินา ฟาโซ และไนเจอร์
อย่างไรก็ดี สัญญาณบวกในรายงานไซเตสล่าสุดคือความพยายามกวาดล้างการลักลอบขน
ค้างาช้างผิดกฎหมาย
ปีที่แล้ว มีการยึดงาช้างทั่วโลกมากเป็นประวัติการณ์ที่ 40,000 กิโลกรัม และเป็นครั้งแรกที่การยึดงาช้าง
ล็อตใหญ่ (มากกว่า 500 กิโลกรัม) เกิดขึ้นในแอฟริกามากกว่าในเอเชีย โดยเฉพาะเคนยา แทนซาเนีย
และยูกันดา เป็นสามประเทศที่ยึดงาช้างรวม 80 เปอร์เซนต์ จากทั้งหมด แต่ปริมาณงาช้างล็อตใหญ่ที่ยึด
ได้นั้น ก็สะท้อนอีกด้านว่าแก๊งอาชญากรรม และกลุ่มกบฏที่พยายามหารายได้จุนเจือการสู้รบในแอฟริกา
เข้ามาเกี่ยวข้องกับการล่าช้างมากขึ้น ประกอบกับความต้องการงาช้างเพื่อทำเครื่องประดับ
และยาแผนโบราณจากจีน ยังสูงอยู่มาก
รายงานไซเตส เรียกร้องประเทศผู้บริโภคและทางผ่านหลัก อย่างจีน ไทย เวียดนาม มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
เพิ่มมาตรการกวาดล่างาช้างมากขึ้นอีก หลังพบสัญญาณการล่าช้างผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นในเอเชีย และการค้า
ช้างป่าให้กับคณะละครสัตว์จีน และป้อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย
นอกจากนี้ไซเตสยังประเมินสถานการณ์ล่าช้างโดยเก็บข้อมูลจากพื้นที่ 51 แห่งทั่วแอฟริกา ซึ่งเป็นที่อยู่
ของช้าง 30-40 เปอร์เซนต์จากประชากรทั้งหมดในภูมิภาค