มีข้อสังเกตจากกรณีที่เครื่องบินรบของกองทัพจีน (PLA) จะใช้เส้นทางบินไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวันเท่านั้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายว่า เป็นเพราะมีช่องว่างทางตะวันตกเฉียงใต้ในเทือกเขากลางของไต้หวันที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลน้อยกว่า 3,000 เมตร (9,840 ฟุต) จึงทำให้ระบบเรดาร์ในเครื่องบินรบของ PLA สามารถมองเห็นฐานทัพอากาศของไต้หวันได้ นอกจากนี้ เครื่องบินรบของ PLA จะไม่บินไปทางเหนือของช่องแคบไต้หวันเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนเที่ยวบินของพลเรือน ของสายการบินภายในประเทศที่บินรับส่งระหว่างสนามบินฝูเจี้ยนและเซี่ยงไฮ้ หางโจว และเมืองชายฝั่งอื่นๆ อีกด้วย
เครื่องบินรบจากแผ่นดินใหญ่รวมถึงเครื่องบิน KJ-500 ที่มีระบบเตือนภัยล่วงหน้าและควบคุมทางอากาศ เครื่องบินขับไล่ J-16 เครื่องบินทิ้งระเบิด H-6K เครื่องบินขับไล่ Su-30 และอื่นๆ ยังคงใช้เส้นทางบินทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวันในการฝึกซ้อมเป็นประจำ เพื่อมุ่งที่จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับภูมิประเทศของเกาะ จากการที่เครื่องบินขับไล่ 400 ลำของกองกำลังทางอากาศของไต้หวันที่ฮัวเหลียนและไถตง ยังสามารถหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีในระลอกแรกของ PLA ได้ เนื่องจากอาศัยสภาพภูมิประเทศที่มีภูเขาครอบคลุมพื้นที่ 500 กม. (310 ไมล์) โดยมีความสูงเฉลี่ยมากกว่า 3,000 เมตร
สรุปโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.scmp.com/news/china/military/article/3153449/why-chinese-military-flights-towards-taiwan-prefer-southwestern )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเส้นทางสายไหม
28/10/2021