ผู้เชี่ยวชาญทางทหารของจีนได้วิเคราะห์เกี่ยวกับกรณีที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ได้ทำการทดสอบการระเบิดใต้น้ำโดยจำลองท่าเรือของศัตรู ซึ่งการทดสอบดังกล่าวได้รวบรวมข้อมูลจำนวนมากที่สามารถนำมาใช้ในการต่อสู้ในอนาคตเพื่อโจมตีท่าเรือของศัตรู รวมถึงการตัดเส้นทางเสบียงของศัตรู
การทดสอบระเบิดใต้น้ำประสบความสำเร็จในการจุดชนวนและทำลายท่าเรือด้วยการระเบิดอันทรงพลัง จากการที่เซ็นเซอร์หลายตัวได้รับการติดตั้งที่จุดโครงสร้างหลักของท่าเทียบเรือเพื่อทำการทดสอบ เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น มีการรวบรวมข้อมูลเกือบ 1,000 ชิ้น ซึ่งได้รับการวิเคราะห์เพื่อประเมินอย่างแม่นยำว่าท่าเรือได้รับความเสียหายอย่างไร ทั้งนี้ เนื่องจากฐานทัพเรือและท่าเรือเป็นศูนย์กลางหลักที่เรือสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ต้องใช้เพื่อขนส่งเสบียง รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และเชื้อเพลิง
ดังนั้น การใช้วิธีลอบเร้น เช่น การระเบิดใต้น้ำเพื่อทำลายท่าเรือ จะทำให้สามารถทำลายศักยภาพในการทำสงครามของศัตรูได้ ซึ่งยุทธวิธีนี้จะสามารถตอบโต้การทำสงครามทางทะเลของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้าไปที่จีน โดยเฉพาะการที่สหรัฐฯ ได้กระจายกองกำลังไปยังพื้นที่ขนาดเล็กด้วยความหวังว่าจะทำให้จีนโจมตีได้ยากขึ้นนั้น แต่กลับจะทำให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ การสื่อสาร และการสั่งการมีความท้าทายมากขึ้น จากการที่ท่าเรือถูกทำลายและการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ที่ล้มเหลว อันจะส่งผลให้กองกำลังรบของสหรัฐฯ ที่กระจายตัว ซึ่งอาศัยการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ก็จะล้มเหลวลงไปด้วย
สรุปโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.globaltimes.cn/page/202110/1237185.shtml )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเส้นทางสายไหม
28/10/2021