เมื่อคืนวันที่ 18 ต.ค.64 เวลา 22.00 น.ตำรวจ สน. ปทุมวัน เข้าตรวจสอบสถานบริการ ร้าน tapas music bar ในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม.หลังจากทราบว่ามีการฝ่าฝืนจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และปล่อยให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก โดยไม่มีการเว้นระยะห่าง ตามข้อกำหนดของสาธารณสุข
เมื่อเข้าไปตรวจสอบก็พบว่า มีลูกค้านั่งดื่มกินกันครึกครื้น มีการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่เว้นระยะห่างจริง มีนักเที่ยวทั้งหมด 93 คน เป็นผู้ชาย 29 และผู้หญิง 64 คน นอกจากนี้ มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับนักเที่ยวด้วย เพื่อคัดแยกป้องกันการแพร่ระบาด
พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนว่าสถานบริการดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายแอลกอฮอล์ และไม่จัดพื้นที่นั่งเว้นระยะห่างให้กับลูกค้า สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา จึงให้ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีการลักลอบกระทำความผิดและได้ว่ากล่าวตักเตือน เพื่อให้ปรับปรุง ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ก็ได้เข้าไปตักเตือนและแนะนำด้วยเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ไร้ผล ยังพบมีการลักลอบเปิดโดยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งที่ตักเตือนไปก่อนหน้านี้แล้ว ที่สำคัญคือร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แท้ๆ แต่ก็ยังจะฝ่าฝืน จึงตัดสินใจนำกำลังเข้าตรวจสอบ และจับกุมเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง
ส่วนการดำเนินคดีแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ดำเนินคดีกับผู้จัดการร้านในข้อหา “ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ,ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ และฝ่าฝืนลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ส่วนนักเที่ยวถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ และฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ”
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน