วันที่ 18 ต.ค.64 ที่บช.น.: พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผช.ผบ.ตร. ร่วมหารือกับ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เพื่อขยายผลทลายเครือข่ายค้าปืนออนไลน์ ที่ถูกตำรวจ 191 จับได้ 3 คน พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนได้ 19 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน 590 นัด เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนเปิดประเทศ และเลือกตั้งท้องถิ่น
โดย พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ฯ กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาวุธปืนที่นำมาใช้ในการก่อเหตุส่วนใหญ่พบว่า เป็นอาวุธปืนที่ซื้อขายกันโดยผิดกฎหมายทางออนไลน์ ดังนั้น จึงสั่งการให้มีการสืบสวนขยายผล ดำเนินคดีกับผู้ที่สั่งซื้อทุกราย ที่อาจนำไปใช้ก่อเหตุ แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมแยกดินแดง และพยายามติดตามเครือข่ายค้าอาวุธออนไลน์อีก 2 เครือข่าย ที่ยังสืบสวนไม่แล้วเสร็จ เพื่อตัดวงจรอาชญากรรม ลดโอกาสไม่ให้คนร้ายนำอาวุธไปใช้ก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ โดยเฉพาะ ในช่วงที่กำลังจะมีการเปิดประเทศ วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ รวมถึง กำลังจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนด้วย ซึ่งที่ผ่านมา มักจะพบผู้ไม่หวังดีใช้อาวุธมาก่อความวุ่นวายมาโดยตลอด ดังนั้น ตำรวจจึงต้องเฝ้าระวังก่อนที่จะเกิดเหตุ ควบคู่งานมวลชนสัมพันธ์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอาชญากรรม และความสูญเสีย
ขณะที่ พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า ได้กำชับให้เฝ้าระวังกรณีการโพสต์ข้อความข่มขู่เกี่ยวกับกรณี นายณัฐวัฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส ผู้ต้องหาใช้มีดแทงกลุ่มวัยรุ่น 6 คน เสียชีวิต 2 คน บริเวณหน้าบ้านพักในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 ซึ่งตำรวจ ได้ลงพื้นที่ค้นบ้านเป้าหมายในชุมชนวัดม่วง ซึ่งมีผู้อ้างตัวเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ โพสต์ข้อความข่มขู่ดังกล่าว เพื่อป้องปรามกรณีที่อาจมีการซุกซ่อนอาวุธไว้ แต่เบื้องต้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเฟซบุ๊กที่โพสต์ข้อความว่าจะมีการล้างแค้นกัน ว่าเป็นของบุคคลใด ซึ่งอาจไม่ใช่คนในชุมชนจริง โดยตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และจะเฝ้าระวังไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการใช้อาวุธปืนในการก่ออาชญากรรมอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงการมีเรื่อง
กระทบกระทั่งกันบนท้องถนน บางครั้งก็จบลงด้วยการใช้อาวุธปืนยิงคู่กรณีจนเสียชีวิต และ
บาดเจ็บ จนน่าเป็นห่วงว่าจะกลายเป็นการมีพฤติกรรมเลียนแบบเกิดขึ้น นอกจากจะเป็นภัยต่อประชาชนเเล้ว ยังเป็นต้นเหตุของการก่อให้เกิดกลุ่มผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมที่มีความรุนเเรงในสังคม จากการตรวจสอบอาวุธปืนที่นำมาใช้ในการก่อเหตุส่วนใหญ่พบว่า เป็นอาวุธปืนที่ซื้อขายกันโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการซื้อขายกันทางออนไลน์
รัฐบาลมีนโยบายในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์
แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์รอง ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งรัดดำเนินการโดย
ได้มอบหมายให้ทำหน้าที่หัวหน้าควบคุมดูแลและสั่งการเกี่ยวกับกฏหมายว่าด้วยอาวุธปืน,เครื่องกระสุนปืน,วัตถุระเบิด,ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน
ที่ผ่านมามีการตรวจค้นจับกุมของ บช.ก.โดยกองบังคับการปราบปรามและหน่วยงานใน ตร.
จำนวนมาก รวมถึงล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ต.ค.64 บช.น. โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.ได้
สั่งการให้มีการสืบสวนขยายผลจากการจับกุมพ่อค้าอาวุธสงครามและทราบว่าอาวุธปืนดังกล่าวซื้อมา
จากเฟสบุ๊กชื่อ Denver Nanato ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเจ้าของบัญชีคือ นายกรกช กองศรี แอดมินกลุ่มซื้อขายอาวุธปืนแอพพลิเคชั่นไลน์ชื่อ “เพื่อนGUN” มีนางจิราพร เขียวไสว และนายจิตริน เขียวไสว ทำหน้าที่จัดส่งอาวุธปืนให้ลูกค้าทางพัสดุ จึงได้วางแผนเข้าตรวจค้นและจับกุมบุคคลทั้งสาม พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนดัดแปลงไทยประดิษฐ์ รวม 18 กระบอก อาวุธปืนมีทะเบียน อีก
จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนปืน 590 นัด นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
และหากมีการตรวจยึดและจับกุมลักษณะนี้ ขอให้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้ที่สั่งซื้อทุกราย
รวมถึงให้หน่วยงานที่มีอำนาจสืบสวนจับกุมทางเทคโนโลยี ได้แก่ บช.สอท. และ บก.ปอท. หามาตรการในทางป้องกันไม่ให้มีการซื้อขายกันทางออนไลน์รวมทั้งสนับสนุนและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเนื่องจากจะมีการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นประมาณปลายเดือน
พฤศจิกายน 2564 จึงให้ทุกหน่วย ทุกพื้นที่ไปออกมาตรการ มิให้เกิดอาชญากรรมที่นำอาวุธปืนมาใช้
ในการก่อเหตุ รวมทั้งเร่งรัดสืบสวนจับกุม หากมีการตั้งด่านตรวจ จุดตรวจต่างๆ ก็ให้นำการตรวจยึดอาวุธปืนทั้งที่ไม่มีเลขทะเบียน และเลขทะเบียนเป็นเป้าหมาย ในการตรวจค้นด้วยอีกส่วนหนึ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน