วันที่ 12 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น. ณ กรมศุลกากร เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร : นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้บริหารระดับสูง ประกอบด้วย พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ,พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน ผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา,ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และพันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เข้าพบเพื่อหารือข้อราชการกับ นายพชร อนันต์ศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร และนายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติงานระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมศุลกากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานร่วมกัน
กรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมศุลกากร มีบันทึกความตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ
ในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2548
ซึ่งเป็นบันทึกความตกลงภายใต้พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 มาตรา 22 ที่ผ่านมา
กรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมศุลกากรได้มีการประสานงานและปฏิบัติงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีคดีสำคัญที่ต้องร่วมดำเนินการจำนวนมาก เช่น คดีรถยนต์ที่มีการนำเข้ามา
ในราชอาณาจักรโดยลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร หรือโดยหลีกเลี่ยงอากร ด้วยการสำแดงราคาอันเป็นเท็จ ทำให้รัฐสูญเสียภาษีอากรพึงได้จำนวนมาก ในการหารือวันนี้
กรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมศุลกากร มีความเห็นร่วมกันว่าเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรวบรวมพยานหลักฐานให้มีความรวดเร็วและลดขั้นตอนการปฏิบัติ รวมทั้งขยายขอบเขตความร่วมมือไปยังเรื่องอื่นๆ จึงได้กำหนดประเด็นสำคัญที่จะร่วมกันดำเนินการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานร่วมกัน ดังนี้
1.จัดให้มีเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานระหว่างสองหน่วยงาน โดยเริ่มต้นจากประเด็นเกี่ยวกับคดีพิเศษในคดีรถหรูก่อน แล้วจึงขยายผลไปยังเรื่องอื่นๆ
2.เชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลกรมศุลกากรกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีรถหรูให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3.เน้นเสริมศักยภาพหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมศุลกากร
ด้วยการจัดฝึกอบรมและการปฏิบัติการร่วมกัน โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษสนับสนุนในการใช้สถาบัน
การสอบสวนคดีพิเศษ เป็นสถานที่ฝึกอบรม รวมทั้งวิทยากรที่เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการพิเศษ
ทั้งนี้ ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันว่าจะต้องมีการปฏิบัติงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และจะมีการทบทวนบันทึกความตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษให้มีความทันสมัย และครอบคลุมความร่วมมือในทุกมิติต่อไป
คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ
12 ตุลาคม 2564
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน