กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ กรณีวันที่ 8 ต.ค.64 ได้มีการนัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมฯ กลุ่มพลเมืองโต้กลับบริเวณหน้าศาลฎีกาเวลา 17.00 น.และกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเยาวรุ่นทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดง เวลา 17.00 น. นั้น
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมฯดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบกฎหมาย และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก สำหรับการปฏิบัติเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 กลุ่มพลเมืองโต้กลับ และกลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน การชุมนุมฯเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวายแต่อย่างใด
ในส่วนของกลุ่มที่ก่อความไม่สงบกลุ่มทะลุแก๊ส ช่วงเวลา 20.30 น. มีเสียงประทัดดัง 1 ครั้งบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง แต่ไม่พบมวลชนมารวมกลุ่มกันแต่อย่างใด
ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจาก ผบช.น. ได้มีมาตรการในการเข้าไปแก้ไขปัญหากลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากที่สุด การดำเนินการทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือน ก.ค.63 จนถึงปัจจุบันมี มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 646 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 302 คดี
อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 344 คดี
ข้อห่วงใย ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอประชาสัมพันธ์ไปเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของ
พี่น้องประชาชนมากที่สุดจึงขอความร่วมมือ ดังนี้
1.กรณีผู้ที่มีบ้านเรือน หรือร้านค้า อยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดที่ชุมนุมฯ ให้แจ้งเตือนบุคคล
ในครอบครัว และบุคคลรอบข้าง หากไม่มีเหตุจำเป็นไม่ควรออกไปนอกที่พักและอาคารในช่วงที่มีการชุมนุมฯ
2.หลีกเลี่ยงการสัญจรไปในเส้นทางที่มีการชุมนุมฯ โดยขอให้ไปใช้เส้นทางที่คู่ขนานกันกับเส้นทางที่ได้รับผลกระทบแทน โดยสามารถสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 1197 และ Facebook 1197
3.หากมีบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความปลอดภัยเข้ามาในที่พักอาศัยหรือทุบทำลายสิ่งของมีค่าที่เป็นของท่านเองหรือสาธารณะประโยชน์ พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ 191
บช.น. ขอแจ้งเน้นย้ำว่ากรุงเทพมหานคร ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมฯหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ,ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 11 ลง 30 ก.ย.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ จึงขอความร่วมมือประชาชนงดการร่วมกิจกรรมการชุมนุมฯต่างๆ เพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยโดยรวมของประเทศชาติและประชาชน
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน