วันที่ 8 ต.ค.64 เวลา 10.30 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม. ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร : พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. สั่งการให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง,พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ
นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว ดังนี้
เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม. ไล่ล่ารถยนต์สีดำต้องสงสัย ขนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จากจังหวัดกาญจนบุรี เข้ามายังกรุงเทพมหานคร ตามสั่งการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. ให้มีการเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าไทยโดยไม่ผ่านการคัดกรองโรคโควิด-19 ยังคงเป็นภารกิจสำคัญที่ สตม. ดำรงความเข้มงวดด้วยมาตรการเฝ้าตรวจพื้นที่ตลอด 24 ชม. ให้จับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายรวมถึงผู้นำพาทั้งชาวไทยและต่างด้าว พล.ต.ต.พันธนะ
นุชนารถ ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัยและ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. จึงสั่งการให้ กก.2 บก.สส.สตม.สืบสวนจับกุมแรงงานต่างด้าวและขบวการนำพาโดยเร่งด่วน พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน ผกก.2 บก.สส.สตม. สั่งการให้ จนท.สืบสวนหาข่าวขยายผลขบวนการขนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง สืบเนื่องจากวันที่ 12 ก.พ.64 ได้มีการจับกุมคดีนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรผิดกฎหมาย โดยผู้ถูกจับกุมในครั้งนั้นคือ นางราตรีฯ หรือเจ๊เพชร จากการขยายผลพบว่ากลุ่มลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองในฝั่งเมียนมา โดยมีนายอองโจ เป็นผู้คอยประสานสั่งการและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังติดต่อคนสัญชาติไทย ที่อยู่ในประเทศไทยให้ทำหน้าที่ขนคนต่างด้าวที่เดินทางหลบหนีเข้าเมือง โดยให้คนไทยมารับตัวผู้หลบหนีตามจุดนัดหมายในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อส่งคนต่างด้าวหลบหนีไปยังพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยคิดค่าหัวคนละ 15,000–20,000 บาท กก.2 บก.สส.สตม. ได้สืบสวนและเฝ้าติดตามพฤติการณ์มาโดยตลอด
จนกระทั่ง วันที่ 26 ก.ย.64 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.สส.สตม. ได้ทำการสืบสวนจนพิสูจน์ทราบแน่ชัด มีคนไทยที่เคยติดต่อทำงานให้กับนายอองโจวฯ เครือข่ายเจ๊เพชรฯ คือนายแสวงฯ จากการเฝ้าติดตามจึงทำให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าจะมีการลับลอบขนคนต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้รถยนต์กระบะสีดำ จุดสังเกตด้านหลังรถติดสติ๊กเกอร์ตราตำรวจนครบาล โดยจะขับเลี่ยงเส้นทางที่มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. บริเวณถนนทางหลวงชนบท นนทบุรี 3046 พบรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 110–120 กม./ชม. วิ่งเข้าตัวเมืองกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงขับรถออกติดตามไปจนถึงบริเวณใต้สะพานลอยพระราม 8 ฝั่งปิ่นเกล้า เมื่อได้โอกาสเจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์เข้าสกัดรถต้องสงสัยคันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวมีคนขับรถคือ นายแสวงฯ มีผู้โดยสารอยู่ในรถจำนวน 4 ราย เป็นสัญชาติเมียนมาทั้งหมด โดยทั้ง 4 รายให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่า เป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผ่านเข้ามาทางจังหวัดกาญจนบุรี ส่วนนายแสวงฯ ให้การว่านายอองโจวฯ ติดต่อให้ลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวทั้งสี่คนเข้าสู่ตัวเมืองชั้นใน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ช่วยเหลือฯด้วยประการใดให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุมฯ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.อาชยนฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน