วันที่ 6 ตุลาคม 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข,นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ,คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับนักเรียนอายุ 12-17 ปี ในสถานศึกษา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดภาคเรียนใหม่ (2/2564) ณ โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ถนวิภาวดี เขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยมี นางอาลัย พรหมชนะ ผู้อำนวยการโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี และคณะครู ให้การต้อนรับ
สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 1 ให้นักเรียน อายุ 12-17 ปี ของโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีในวันนี้ เป็นการฉีดวัคซีน Pfizer ให้นักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 1-6 ที่เข้ารับการฉีดด้วยความสมัครใจและได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 2,505 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 2,929 คน คิดเป็นร้อยละ 85.52 ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดตามมาตรการของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
นักเรียนส่วนใหญ่ ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนในวันนี้กล่าวว่า ถึงแม้จะได้รับคำแนะนำจากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ในเรื่องของการเตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการเข้ารับการฉีดวัคซีนมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม แต่ยังรู้สึกตื่นเต้นและเป็นกังวลบ้างเล็กน้อย ถึงผลข้างเคียงที่ได้รับฟังจากข่าวสารต่อๆ กันมา แต่ที่ตัดสินใจมาฉีด เพราะคิดว่า โควิด-19 คงจะอยู่ร่วมกับเราไปอีกนาน ดังนั้นมีเกราะป้องกันไว้ดีกว่าไม่มี และเชื่อว่าเมื่อฉีดแล้ว ติดโควิด-19 อาการจะไม่รุนแรง หรืออาจไม่มีอาการใดๆเลย หากนักเรียนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว โรงเรียนจะสามารถเปิดทำการสอนได้
ด.ญ.กัลสุดา เปอะปิน นักเรียนชั้น ม. 2/3 กล่าวว่า “กราบขอบพระคุณนายกรัฐมนตรี และผู้ใหญ่ใจดี จากกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุขทุกท่านนะคะ ที่จัดฉีดวัคซีน Pfizer ป้องกันโควิด-19 ให้แก่นักเรียนทุกคน พวกหนูสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี และจะตั้งใจเรียนหนังสือค่ะ อยากให้โรงเรียนเปิดทำการสอนเร็วๆ พวกหนูอยากไปโรงเรียนแล้วค่ะ”
ก่อนกลับ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้แวะเยี่ยมบุคลากรด่านหน้าที่มาให้บริการฉีดวัคซีน และพูดคุยให้กำลังใจนักเรียนที่รอรับการฉีดวัคซีน เพื่อให้หายตื่นเต้น และคลายความกังวล
และจากการติดตามสอบถาม นางสุมิตรา อ่าวจินดาพยาบาลวิชาชีพ จากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ที่ประจำ ณ จุดปฐมพยาบาล และติดตามอาการนักเรียนที่ฉีดวัคซีน เมื่อเวลา 16.30 น. ซึ่งฉีดวัคซีนให้นักเรียนไปแล้ว 2,000 คน ว่ามีผลข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้นกับนักเรียนที่เฝ้ารอสังเกตอาการ 30 นาที ไปแล้วบ้างหรือไม่ ผลปรากฎว่ามีนักเรียนจำนวน 17 คน มีอาการเหนื่อย ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากการวิ่งขึ้นตึกมา ณ จุดที่ทำการฉีดวัคซีน ซึ่งอยู่บนชั้นที่ 3 ของอาคารเรียน แต่หลังจากให้นอนพัก 20-30 นาทีแล้ว ทุกคนมีอาการเป็นปกติ ส่วนนักเรียนคนอื่นๆ ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เกิดขึ้นเลย และได้ให้นักเรียนทยอยกลับบ้านแล้ว พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติตน เมื่อกลับถึงบ้าน ซึ่งบางคนอาจมีอาการปวดหัว ตัวร้อน หรือมีไข้เล็กน้อย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน