วันที่ 6 ต.ค.64 เวลา 11.00 น. ณ ลานแถลงข่าวชั้น 1 อาคาร บช.น. : พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์,พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี,พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์,พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา,พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.สปพ.,พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.,พ.ต.ท.อัครพล โทยะ,พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์,พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร และ พ.ต.ท.สุทธิเดช โอฬาริ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. แถลงข่าวผลงาน 191 จับยาเสพติด 2 เครือข่ายใหญ่ ย่านบางใหญ่ และ ย่านบางแค
รายแรก 191 สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย คือ นาย ลักษ์นัฐ นักดนตรี (แอ้) อายุ 31 ปี,นายชยากร โสภณศิริ (ท๊อป) อายุ 25 ปี และ นายยุทธภพ แสงภู (ปอนด์) อายุ 24 ปี พร้อมด้วยของกลาง ไอซ์ประมาณ 400 กิโลกรัม,เคตามีนประมาณ 160 กิโลกรัม,เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 48 นัด,รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Ford Ranger สีเทาหมายเลขทะเบียน 1 ฒภ 7257 กทม.รวมมูลค่าประมาณ 176,000,000 บาท
ทรัพย์สินตรวจยึดตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ คือสมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 7 เล่ม,รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า HRV สีดำ หมายเลขทะเบียน 8 กผ 6403 กทม.,รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ชล 9575 กทม.,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ wave i สี แดง-ขาว ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ X-Max สี น้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน และรถจักรยานยนต์ ยีห้อ คาวาซากิ KR สี เขียว-ขาว ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน
รวมมูลค่าประมาณ 1,500,000 บาท
โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 119/241 หมู่บ้านพลีโน่ บางใหญ่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สายตรวจ บก.สปพ.ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด,ไอซ์กว่า 7 กิโลกรัม ภายในซอยลาดปลาเค้า 48 พื้นที่ สน.โคกคาม จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้มารับยาเสพติดจากย่านบางใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมและสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้ต้องหานั้น พักอาศัยและซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่บ้านเลขที่ 119/241 หมู่บ้านพลีโน่ บางใหญ่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
ต่อมาวันที่ 5 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณบ้านเลขที่ดังกล่าว และเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Ford Ranger สีเทา หมายเลขทะเบียน 1 ฒภ 7257 กทม. ขับออกจากบ้านพัก จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. รถยนต์กระบะได้ขับกลับเข้ามายังบ้านพัก จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ช่วยกันยกกระสอบลงมาจากรถยนต์กระบะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวจับกุม และตรวจค้นพบว่าภายในกระสอบนั้นคือยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักกว่า 400 กิโลกรัม จากนั้นได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักยังพบยาเคตามีน จำนวน 160 กก. และยาอี จำนวน 40 เม็ด สอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับว่าขับรถยนต์กระบะออกไปรับยาไอซ์ที่ย่านบางปะอิน โดยมีนายต้น (ไม่ทราบชื่อสุกลจริง) ที่อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเป็นผู้สั่งการให้ไปรับยาเสพติดมาจากย่านบางปะอิน จากนั้นนายต้นจะแจ้งว่าให้ไปส่งให้กับลูกค้าตามสถานที่ที่นายต้นแจ้ง ส่วนใหญ่เป็นเป็นย่าน ถ.กาญจนา ได้ค่าจ้างครั้งละ 50,000–100,000 บาท ต่อครั้ง และทำมาแล้ว 3 ครั้ง
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้าฯ ที่ทำหน้าที่นำทาง ซึ่งได้หลบหนีไป รวมถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เหลืออีกต่อไป
รายที่สอง 191 จับยาบ้าย่านบางแค ยึดยาบ้ากว่า 3 แสนเม็ด และไอซ์ 7 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย คือ นายสุพจน์ ธีระวงษ์วาน อายุ 26 ปี,นายพัลลภ ศักดิ์รัตนา อายุ 23 ปี และ น.ส.ชนาพรรณ จันทร์พร้อม อายุ 24 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าประมาณ 374,000 เม็ด,ไอซ์ประมาณ 7 กิโลกรัม,รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส หมายเลขทะเบียน ฌล 7167 กทม. รวมมูลค่าประมาณ 16,600,000 บาท โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 8/25 หมู่บ้านชัยมงคล ซ.2 ถ.กาญจนาภิเษก ซ.8 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ
โดยมีพฤติการณ์คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้ทำการสืบสวนขยายผลจากการจับกุมยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มาโดยตลอดทำให้ทราบว่ามีกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 จับกุมได้ขณะมารับยาเสพติดที่ย่านบางเเค เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมและสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวได้เช่าบ้านพักไว้ที่บ้านเลขที่ 8/25 หมู่บ้านชัยมงคล ซ.2 ถ.กาญจนาภิเษก ซ.8 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ เพื่อซุกซ่อนยาเสพติดก่อนจะนำส่งให้ลูกค้า จากนั้นจึงได้วางกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา
ต่อมาวันที่ 5 ต.ค.64 เวลาประมาณ 20.00 น. พบรถยนต์เก๋ง โตโยต้าวีออส คันทะเบียน ฌล-7167 กทม. ขับมาจอดที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสามคนได้เข้าไปในบ้านพักสักครู่ได้ถือสิ่งของที่เชื่อว่าเป็นยาเสพติดออกมาจากบ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 จึงได้เข้าเเสดงตัวขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 90,000 เม็ด อยู่ภายในรถยนต์ จากนั้นได้ตรวจสอบภายในบ้านพักยังพบยาบ้าอีกจำนวน 284,000 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 7 กก. จึงได้เเจ้งข้อกล่าวหา เเละสิทธิ์ให้ทราบ จากนั้นนำตัวมาที่ กก.สายตรวจ บก.สปพ. เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม นำส่ง พงส.บช.ปส. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สำราญฯ เปิดเผย ว่า เครือข่ายที่บางใหญ่ เป็นกลุ่มจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ชุมชน การจับกุมสืบเนื่องมาจากการสืบสวนขยายผลหลังจากการจับเครือข่ายค้ายาเสพติดในลาดปลาเค้า 48 ไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ผลการตรวจค้นบ้านพักเป้าหมาย จับผู้ต้องหาได้ 3 คน พร้อมยึดไอซ์น้ำหนักรวม 400 กก.,เคตามีนน้ำหนักประมาณ 160 กก.,ยาอี 40 เม็ด และมีเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 48 นัด รวมถึงรถยนต์กระบะ 1 คัน รวมมูลค่าประมาณ 176,000,000 บาท นอกจากนี้ขยายผลอายัดทรัพย์สิน อาทิ สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 7 เล่ม รถยนต์ 2คันและรถจักรยานยนต์ อีก 3 คัน
สอบปากคำผู้ต้องหา อ้างว่า มีนายต้นสั่งการจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยสั่งให้ไปรับยาเสพติดไปมาจาก พื้นที่บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาจากนั้นจะมีการส่งจำหน่ายให้เครือข่ายผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ชุมชน กรุงเทพมหานคร ในเบื้องต้น แจ้งข้อกลาวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ส่วนอีกคดีในพื้นที่บางแค พล.ต.ท.สำราญฯ กล่าวว่า 191 สืบสวนขยายผลจากการจับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ปทุมธานี ผลการเข้าตรวจค้นบ้านพักจับผู้ต้องหาได้ 3 คน ตรวจยึดของกลาง เป็นยาบ้าประมาณ 374,000 เม็ด,ไอซ์ประมาณ 7 กก. และรถยนต์ 1 คัน ในเบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
หากประชาชนท่านใด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมาย โซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ สายด่วน 191 และ เพจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน