กมธ.วิฯเหมืองแร่ฯสภาฯดูงาน นายประทวน สุทธิอำนวยเดช ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาการออกประทานบัตรเหมืองแร่ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ สภาผู้แทนราษฎรลงพื้นที่ การทำเหมืองแร่หินปูน ในเขตพื้นที่ ชั้นคุณภาพของ ลุ่มน้ำ 1A และ 1B จังหวัดสระบุรี
เมื่อวันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 เวลา 10.30 น. ที่ผ่านนั้น ที่ศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี นายประทวน สุทธิอำนวยเดช ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแก้ไขปัญหาการออกประทานบัตรเหมืองแร่ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ สภาผู้แทนราษฎร และคณะประกอบด้วย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า
นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล กรรมาธิการ นายเกียรติ เหลืองขจรวิทย์ กรรมาธิการ กรรมาธิการ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย นายขจรพงศ์ คำดี กรรมาธิการ นายสกล จุลาภา กรรมาธิการ นายอรรณุวัฒน์ วัฒนวรรณ กรรมาธิการ นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ กรรมาธิการ กรรมาธิการ นายอนุชา น้อยวงศ์ นายรณเทพ อนุวัฒน์ กรรมาธิการ นายสุทา ประทีป ณ ถลาง กรรมาธิการ รวมถึงที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการฯ ประกอบด้วย นายไพชยนต์ เจริญไชยศรี นายบรรพต แสงเขียวนายณล จักรจรัส นายณพลเดช มณีลังกา
รวมถึงเจ้าหน้าที่สภาประกอบด้วย นายกรรณชิต จินดาวัฒน์ และนางสาวจริงจัง นะแส ได้เดินทางศึกษาดูงาน เรื่อง “การประกอบกิจการเหมืองแร่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1A และ 18 พื้นที่จังหวัดสระบุรี” ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี โดยมีตัวแทนคือ นางอังคณา ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) และตัวแทนผู้ประกอบการกลุ่ม เหมืองหินหน้าพระลาน ที่ห้องประชุมพระพุทธบาท ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสระบุรี ตำบลตะกุด อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี
นายประทวน กล่าวว่า การที่คณะกรรมาธิการฯ ได้เข้ามาศึกษาดูงานก็เป็นตามอำนาจหน้าที่ เพื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อรัฐสภา หากรัฐสภาเห็นด้วย ก็จะนำเสนอข้อเท็จจริงรวมถึงข้อมูลที่นำเสนอต่อ ครม. เพื่อนำเสนอต่อไป โดยนางอังคณา ได้ชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ (ตก กลาง ป่าสัก) ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นนี้ไม่ให้มีการใช้พื้นที่ในทุกกรณี ทั้งนี้ เพื่อรักษาไว้ เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารอย่างแท้จริง หากมีการอนุญาตให้เอกชนใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการต่างๆ โดยถูกต้องตามกฎหมายไปก่อนที่จะมีการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ เมื่อสิ้นนิติสัมพันธ์ กับทางราชการแล้วไม่ให้มีการต่ออายุใบอนุญาตอีกเว้นแต่ กรณีที่เป็นนโยบายของรัฐบาล กรณีที่แหล่งแร่หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนค์และหินประดับ ชนิดหินอ่อนและหินแกรนิตซึ่งรัฐมีข้อผูกพันเป็นประทานบัตร หรือพื้นที่ ที่ได้รับความเห็นชอบ EIA ก่อนครม. มีมติเห็นชอบกับการกำหนดชั้นคุณภาพลุ่มน้ำให้ปฏิบัติ ตามมาตรการที่กำหนดไว้ใน EIA ใช้เส้นทางเดิมหรือเส้นทางลำลองและฟื้นฟูเสันทางเมื่อสิ้น อายุประทานบัตร
รายงานผลการติดตามให้ กก.วล.ทราบ และถ้าก่อมลพิษต้องหยุดดำเนินการ มาตรการการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ นั้นพื้นที่ศักยภาพแร่ ที่รัฐยังไม่มีข้อผูกพันการพิจารณาใช้ประโยชน์พื้นที่ ควรพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป โดยร่วมกันพิจารณาระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเป็นรายๆ ไป โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่ แหล่งแร่หินปูน ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อการผลิตของอุตสาหกรรมซีเมนต์ รวมทั้งพื้นที่แหล่งหินประดับ ชนิดหินอ่อนและหินแกรนิด ที่รัฐได้อนุญาตให้มีการขยาย และจัดตั้งโรงงานก่อนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2534 ทั้งนี้ จะต้องพิจารณาถึงปริมาณแร่สำรอง
รวมทั้งกำลังการผลิตของโรงงาน ตลอดจนพื้นที่ศักยภาพแร่ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นอื่นก่อนด้วย กรณีพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ทำการระเบิดและย่อยหินมาก่อน ต่อมาพื้นที่ติดอยู่ในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เมื่อหมดอายุไม่อนุญาตใช้ต่ออายุอีก โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการขอผ่อนผันเพื่อดำเนินงานในพื้นที่ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 มาโดยตลอด เพื่อดำเนินงานโครงการของรัฐและเอกชนที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจหรือความมั่นคงของประเทศ โดยคณะรัฐมนตรีจะพิจารณาผ่อนผันเป็นรายกรณี ปัจจุบัน การดำเนินกิจกรรมทุกประเภทที่อยู่ในลุ่มน้ำ ชั้นที่ 1 จะต้องจัดทำ EIA ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรฯ เพื่อประกอบการอนุมัติ หรือ อนุญาตแล้วแต่กรณี
หลังจากนั้น เวลา 13.30 คณะกรรมาธิการ และคณะ ได้เดินทางไปศึกษาดูงานการประกอบกิจการ เหมืองแร่บนพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 A และ 1 B ของ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) และกลุ่มเหมืองหินหน้าพระลาน
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ