นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน H-20 ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) จะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในปี 2025 (พ.ศ.2568) หลังจากที่ได้ประกาศเปิดตัวเมื่อเดือน ต.ค.61 และเปิดเผยต่อสาธารณชนในขบวนพาเหรดงานฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 โดยคาดหวังว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่สำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ของจีนต่อการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อฐานทัพสหรัฐฯ และกองเรือรบของสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งนี้ ด้วยสมรรถนะของ H-20 ที่คาดว่าจะมีรัศมีการรบสูงสุดโดยไม่ได้เติมเชื้อเพลิงเกินกว่า 5,000 ไมล์ และบรรทุกน้ำหนักได้ระหว่าง 10 – 23 ตัน รวมทั้งได้รับการออกแบบมาเพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่นอกเหนือ “แนวห่วงโซ่เกาะที่สอง” (“second island chain”ซึ่งรวมถึงฐานทัพสหรัฐในญี่ปุ่น กวม และฟิลิปปินส์ ฯลฯ) จากฐานทัพบนจีนแผ่นดินใหญ่ ตลอดจนแนวห่วงโซ่เกาะที่สาม (“third island chain”) ที่ขยายไปถึงจนถึงฮาวายของสหรัฐฯ และชายฝั่งของออสเตรเลีย นอกจากนี้ ยังสามารถลดความกังวลในกรณีที่จีนอาจจะถูกตอบโต้จากขีปนาวุธของสหรัฐฯ ต่อคลังแสงขีปนาวุธ ICBM และ SLBM ของจีน โดยเฉพาะการที่เครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน H-20 ของจีน มีขีปนาวุธนำวิถี CJ-10K ที่มีพิสัยไกลกว่า 900 ไมล์ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการโจมตีต่อระบบการป้องกันของสหรัฐฯ โดยที่สหรัฐฯไม่อาจหยุดยั้งได้
สรุปโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ https://nationalinterest.org/blog/reboot/china-could-have-stealth-bomber-its-hands-193194 )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเส้นทางสายไหม
8/9/2021