วันที่ 24 ส.ค.64 เวลา 18.30 น.ที่ลานเอนกประสงค์ ชั้น 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) : พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชน จากกรณีของ พ.ต.อ.ถิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับ “โจ้เฟอรารี” ซึ่งถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องการข่มขู่รีดไถเงินจากผู้ต้องหาคดียาเสพติด 2 ล้านบาท จนกระทั่งผู้ต้องหาเสียชีวิต จากนั้นได้มีการเผยแพร่ภาพคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ขณะกลุ่มตำรวจกำลังใช้ถุงพลาสติกคลุมหัว และใช้กำลังบังคับข่มขู่ให้บอกข้อมูลบางอย่างจนผู้ต้องหาเสียชีวิต จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลเป็นวงกว้าง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยว่า หลังจากที่ทาง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ จเรตำรวจแห่งชาติ ได้ลงไปตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ประกอบกับคลิปดังกล่าวที่มีการเผยแพร่ จึงเตรียมจะลงนามให้ ผู้กำกับโจ้ ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะนี้รอเพียงการทำรายงานและเอกสารทางธุรการเท่านั้น โดยยืนยันว่า คดีดังกล่าวจะต้องทำให้จบภายในวันนี้ และไม่ใช่เพียงตัวของ ผู้กำกับโจ้ เท่านั้น ยังรวมถึงผู้ร่วมในเหตุการณ์ดังกล่าวอีก 13 นาย จะมีคำสั่งอื่นๆออกมาหลังจากนี้
ส่วนเรื่องของคดีอาญาเนื่องจากภาพจากกล้องวงจรปิดและข้อมูลรายงานจาก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่ามีความผิดจริงชัดเจน ก็จะเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาทันที ไม่เอาไว้
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ผู้กำกับโจ้ และพวกอาจหลบหนี ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน,สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ติดตามตัวอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้หลบหนีออกนอกพื้นที่ได้ นอกจากนี้ยังให้จเรตํารวจแห่งชาติ ตรวจสอบประวัติการร้องเรียนในอดีตของผู้กำกับ และทีมงานว่า มีพฤติการณ์เป็นอย่างไร รวมถึงการสืบสวนต่อลงไปยังเส้นทางการเงินและที่มาของเงินทั้งหมดที่ผู้กำกับโจ้ใช้จ่าย
สำหรับเรื่องการคุ้มครองพยานในคดี โดยเฉพาะตำรวจที่นำคลิปดังกล่าวมาเปิดเผย ตามปกติแล้วพยานในคดีจะมีมาตรการในการคุ้มครองดูแลพยานอยู่แล้วจึงขอให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง
ซึ่งเรื่องดังกล่าว พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ค่อนข้างไม่สบายใจกับคลิปวีดีโอดังกล่าวที่มีการเผยแพร่ และสั่งการให้ตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา พร้อมดำเนินการกับผู้ที่กระทำความผิดตามขั้นตอนโดยไม่ละเว้น
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังเปิดใจหลังจากได้เห็นภาพคลิปดังกล่าวรวมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่อาจเป็นการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อข้าราชการตำรวจว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเพราะมีผู้สูญเสีย และฝากเป็นอุทาหรณ์ให้กับข้าราชการตำรวจทุกนายซึ่งมีกว่า 2 แสนกว่านายให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง ทำอะไรผลที่ตามมามันรุนแรงกว่าที่คิดไว้ และต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีทางหนีพ้นได้ รวมทั้งยอมรับว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจทุกนาย คดีนี้ยืนยันว่านิ้วไหนที่เสียก็ต้องตัดทิ้งไม่ละเว้น เพื่อให้คนอื่นๆเดินต่อได้ แต่ก็เชื่อว่าตำรวจที่ดีก็ยังมีอยู่ คนเลวๆ ที่ทำไม่ดีก็ต้องรับผลกรรมที่ทำเอาไว้ เราไม่สามารถเอาคนแบบนี้ไว้ได้
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน