กอ.รมน.จังหวัดสตูล ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าชายฝั่งและป่าชายเลน, ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน จ.สตูล, ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24-27, กก.6 บก.ป.การกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล, สภ.ทุ่งหว้า, หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ สต.2 (ทุ่งหว้า) และ กำนัน ต.ขอนคลาน อ.ทุ่งหว้า ตลอดจน ผญบ.หมู่ 1 ต.ขอนคลาน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล สนธิกำลังเพื่อดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่แปลงเป้าหมายคามแผนปฏิบัติการ “เพิ่มและฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน” (ทวงคืนผืนป่าชายเลน) เนื้อที่ จำนวน 92-3-56 ไร่ บริเวณทุ่งพยอม หมู่ 1 ต.ขอนคลาน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเลน จ.สตูล ผลการดำเนินการตรวจสอบ พบว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว มีร่องรอยการขุดคูยกคันดินล้อมรอบพื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่ป่าถูกแผ้วถาง และทำประโยชน์เป็นบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ไม่พบตัวผู้กระทำความผิด โดยในการนี้ คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า การเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน โดยมิได้มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เป็นการบุกรุกยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวน จึงได้ดำเนินการตรวจยึดพื้นที่ป่าดังกล่าว ในฐานความผิด การยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 25 และ มาตรา 31 และ พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2549 มาตรา 26/4,26/5 มาตรา 31 และการกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใด โดยมิชอบด้วยกฏหมายอันเป็นการทำลายหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน อันเป็นความผิดตาม พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 97 จึงได้มอบเรื่องราวให้ นายนิพนธ์ เต็มแก้ว ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 26 (ทุ่งหว้า สตูล) รับเรื่องไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งหว้า เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
นิตยา แสงมณี // ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสตูล