วันนี้ (17 สิงหาคม 64) เมื่อเวลา 09.00 น. นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 41/2564 ผ่านระบบ Zoom จากห้องประชุมอโยธยา ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปยังทุกอำเภอ โดยมี พันเอก(พ) เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.รมน.จว. นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัด นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ. นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการฯ และตัวแทนภาคธุรกิจเอกชน เข้าร่วมประชุม พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom เพื่อติดตามและกำหนดมาตรการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
โดยสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มียอดสะสมระลอกเมษายน 15,582 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 433 ราย รักษาหายแล้ว 7,751 ราย และเสียชีวิตสะสม 134 ราย ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติตามมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์โรคโควิด-19 (ฉบับที่ 66) และติดตามผลการดำเนินงานเฝ้าระวังคลัสเตอร์ในสถานประกอบการ เรือนจำ และทัณฑสถาน ในจังหวัดฯ โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและประชาชน ตามคำสั่ง/ประกาศจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างต่อเนื่อง การให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง การดำเนินการ Factory Accommodation Isolation (FAI) ในสถานประกอบการ การประเมินสถานการณ์การปิดสถานที่ กิจกรรมและกิจการ แผนการจัดสรรวัคซีน ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ และการจัดสรร Antigen terst kit (ATK) เสริมมาตรการเชิงรุกให้ รพ.สต ความคืบหน้าการดำเนินงานปรับ Hospitel หอ 5 ม.ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์พักคอย (Community Isolation) ของอำเภอพระนครศรีอยุธยา การรายงานผลปรับปรุงตลาดเจ้าพรหม การจัดทำแผนเผชิญเหตุโรคติดเชื้อโควิดของสถานประกอบการ สถานการณ์โรคลัมปี สกิน และโรคระบาดในสุกร ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาการเสนอแผนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของบริษัท แมกเนคอมพ์ พรีซิชั่นจำกัด การพิจารณาจัดสรรวัคซีน เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 และพิจารณาข้อเสนอให้ทบทวนมาตรการผ่อนปรนของชมรมร้านเสริมสวย ร้านตัดผม แต่งผม และมาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติมตามนโยบายของ ศบค.
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในปัจจุบัน พบว่าการแพร่ระบาดไม่ว่าจะเกิดจากกลุ่มไหน แต่จะเน้นการดำเนินการเชิงรุก เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มครอบครัว โดยการกระจายชุดตรวจเชิงรุกด้วย ATK ที่ได้รับการบริจาคประมาณ 30,000 ชิ้น ลงไปให้ รพ.สต.ทุกอำเภอ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้พิจารณามาตรการเร่งด่วนสำคัญหลักๆ ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนซิโนแวค ไฟเซอร์ แอสตร้า โดยเฉพาะไฟเซอร์ จะกระจายให้กับประชากรกลุ่ม 60 ปี 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงและอันตรายต่อการติดเชื้อโรคได้ง่าย รวมทั้งพิจารณาการเสนอแผนมาตรการควบคุมโรคของบริษัท แมกเนคอมพ์ พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) มีพนักงานจำนวนกว่า 5,000 คน โดยแผนการเปิดแบ่งเป็น 4 ช่วง ตามจำนวนของพนักงานที่ติดเชื้อหายแล้วและผู้เสี่ยงต่ำ ซึ่งอนุญาตให้สามารถเปิดดำเนินการได้ตามแผนดังกล่าว และให้คณะทำงานของจังหวัดออกติดตามประเมินผลตามแผนฯ ตลอดจนพิจารณาข้อเสนอของชมรมร้านเสริมสวยที่ขอผ่อนปรนจากคำสั่งปิดตามที่จังหวัดดำเนินการสั่งปิดตามกรอบนโยบายที่ ศบค.กำหนด เนื่องจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ทั้งนี้ จังหวัดจะรับข้อเสนอมาตรการที่ชมรมขอเปิดบางกิจกรรม เพื่อเสนอให้ ศปก.ศบค.พิจารณาต่อไป ส่วนพนักงานบริการภายในร้านเสริมสวย ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยง คณะกรรมการฯ จะจัดสรรวัคซีนซิโนแวคให้ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม หากทาง ศบค. มีนโยบายให้ผ่อนปรนเมื่อใดจะได้พร้อมให้บริการ และสร้างความมั่นใจทั้งผู้ให้และผู้รับบริการ อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือพี่น้องชาวพระนครศรีอยุธยาเข้มงวดการปฏิบัติตาม D-M-H-T-T-A เพื่อเป็นวัคซีนให้ตนเองและสังคมต่อไป
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ