ฯพณฯ นายหาน จื้อเฉียง (韩志强) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำราชอาณาจักรไทย คนใหม่
ซึ่งได้เดินทางถึงประเทศไทยเพื่อเข้ารับตำแหน่ง (新任中华人民共和国驻泰王国特命全权大使韩志强抵泰履新) เมื่อช่วงเย็นวันที่ ๑๐ ส.ค.๖๔
ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ท่านทูตหาน จื้อเฉียง ได้กล่าวความรู้สึกว่า ประเทศจีนกับประเทศไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีสัมพันธไมตรีอันยาวนาน ปัจจุบันนี้ โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในทั่วโลก จีนกับไทยและประชาชนของทั้งสองประเทศได้ร่วมแรงร่วมใจและคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันวิเศษที่เป็น“จีนไทยครอบครัวเดียวกัน”และจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ สำหรับประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ของมวลมนุษยชาติ ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ ๑๐๐ ปีในการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประเทศจีนได้ประสบความสำเร็จในการสร้างสังคมกินดีอยู่ดี อย่างถ้วนหน้า กำลังมุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ ที่แข็งแกร่งอย่างรอบด้านด้วยความเชื่อมั่น อย่างเต็มตัว
ประเทศไทยกำลังรวมไทยสร้างชาติ ผลักดันยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์จีน-ไทยกำลังพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ผมได้รับคำสั่งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงและเป็นภารกิจอันสำคัญยิ่ง และยินดีที่จะร่วมกับเพื่อนๆ ทั้งหลายจากวงการต่างๆ ของประเทศไทย ผลักดันความร่วมมือในการต่อสู้กับโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นมิตรในปริมณฑลต่างๆ และยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างธ์จีน-ไทยให้ขึ้นไปสู่ขั้นใหม่
๒. ในเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย ได้เผยแพร่สาร ของท่านทูตหาน จื้อเฉียง โดยมีความสำคัญตอนหนึ่งว่า
“…จีนไทยมิใช่อื่นไกล พี่น้องกัน ประเทศทั้งสองมีความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ มีความผูกพันทางสายเลือด วัฒนธรรมและแนวคิดผสมผสานกัน เรามีประวัติความสัมพันธ์ฉันมิตรมานานนับพันปี มีจุดเชื่อมโยงทางผลประโยชน์ที่ชัยชนะร่วมกัน อย่างมั่นคง และมีศักยภาพ ทางด้านพัฒนาที่มหาศาล และสะสมมาเป็นเวลายาวนาน เวลา ๔๖ ปี ตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา
เรายืนหยัดช่วยกันและกัน และก้าวหน้าด้วยกัน ความไว้เนื้อเชื่อใจกันทางยุทธศาสตร์เพิ่มมากขึ้น อย่างต่อเนื่อง ความร่วมมือที่รูปธรรมขยายออกไป อย่างรวดเร็ว มิตรภาพระหว่างประชาชน ทวีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งสองฝ่าย ให้การสนับสนุนแก่กันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลัก และสำคัญของอีกฝ่าย ส่งเสริมการเชื่อมต่อยุทธศาสตร์ทางการพัฒนา และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการบริหารประเทศ ยืนหยัดผลักดันร่วมพัฒนา “สายแถบและเส้นทาง”
ที่มีคุณภาพสูง ประเทศจีนเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยติดต่อกันมาเป็นเวลา ๘ ปี ในครึ่งปีแรกปีนี้ มูลค่าการค้าจีน-ไทยกลับเติบโตสวนกระแสถึง ๓๘% ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีน ที่เข้ามาเที่ยวในไทยปีละทะลุ ๑๐ ล้านคนต่อปี คิดเป็น ๑ ใน ๓ ของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่มาเที่ยวประเทศไทย ความร่วมมือฉันมิตรจีน-ไทยสอดคล้องกับผลประโยชน์รากฐานของประชาชน ทั้งสองประเทศ ได้รับการสนับสนุน อย่างจริงใจ และแน่วแน่จากประชาชน ทั้งสองประเทศ ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะผันผวนปรวนแปรเป็นอย่างไร ความร่วมมือฉันมิตรระหว่างจีน-ไทยก็ควรพัฒนาก้าวหน้าต่อไป และย่อมสามารถพัฒนาก้าวหน้าต่อไปได้ ผมมีความมั่นใจอย่างยิ่งในเรื่องนี้…”
บทสรุป ในวรรครองสุดท้ายจากสารของท่านทูตหาน จื้อเฉียง ความว่า “การพัฒนาของประเทศจีนปราศจากโลกไม่ได้ การพัฒนาของประเทศจีน ก็จะสร้างผลประโยชน์ให้โลกเช่นกัน เวลานี้เมื่อปีที่แล้ว ฯพณฯ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้สนทนาทางโทรศัพท์ กับ ฯพณฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยได้กล่าวว่า ความสัมพันธ์จีน-ไทยมีพื้นฐานหนาแน่นและศักยภาพยิ่งใหญ่ ฝ่ายจีนยินดีที่จะร่วมกับฝ่ายไทย ผลักดันให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ระหว่างจีน-ไทย นั้นประสบความคืบหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และความร่วมมือ สำหรับประเทศในภูมิภาค รักษาแนวโน้ม แห่งการพัฒนาอย่างดีของภูมิภาคต่อไป ฝ่ายจีนยินดี ที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทย ปฏิบัติตามฉันทมติอันสำคัญที่บรรลุโดยผู้นำของทั้งสองประเทศ พัฒนาศักยภาพ อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมความร่วมมือทางด้านนวัตกรรม ร่วมกัน สร้างอนาคตที่รุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น ของความสัมพันธ์จีน-ไทย”
ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://th.china-embassy.org/chn/sgxw/t1898723.htm และเว็บไซต์ http://th.china-embassy.org/th/sgxw/t1898737.htm รวมทั้งเว็บไซต์ http://th.china-embassy.org/th/sgxw/t1898738.htm )
นำเสนอ/รายงาน
ว่าที่ พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์
ตำแหน่ง เลขาธิการ
สถาบันศึกษาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอาเซียนและโครงการคลองกระ
12/8/2021