ตามที่มีประเด็นการเผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียลและสื่อมวลชนต่างๆ กรณีมีเอกสารหลุด “ลับที่สุด” จับตา 183 บุคคลถูกเฝ้าดู โดยระบุชื่อ พ.ต.ท.หญิง โสภิดาฯ สว.กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ที่มุมขวาของกระดาษด้วย
วันที่ 10 ส.ค.64 เวลา 10.30 น. : พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สตม. ได้ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวว่า ปกติสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะมีข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งกรณีที่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 12 ซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่เคยถูกจำคุกทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงคนต่างชาติที่มีหมายจับจากต่างประเทศ
ซึ่งกลุ่มนี้หากตรวจพบว่าเข้าข่ายคนต้องห้ามจะเดินทางเข้าประเทศ ก็จะถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธการเข้าเมือง ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือ กรณีมีหมายจับคดีอาญาในประเทศไทย หากเจ้าหน้าที่พบว่า กำลังจะเดินทางเข้า หรือ ออกนอกประเทศ ก็จะมีการจับกุมดำเนินคดี ซึ่งหมายจับคดีอาญากลุ่มนี้ จะเชื่อมโยงกับระบบฐานข้อมูลหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือระบบ Crime ทุกคดี ซึ่งขณะนี้มีหมายจับคดีอาญาทุกประเภท ทั้งคดีเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สิน คดีตาม พ.ร.บ.อื่นๆ รวมประมาณ 1,923 คดี
สำหรับกรณีมีการระบุว่ามีเอกสาร “ลับที่สุด” มีรายชื่อบุคคลทางการเมือง เป็นบุคคลเฝ้าดูนั้น ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ได้รับการยืนยันจาก พล.ต.ต.วีรพล เจริญศิริ ผบก.ตม.2 ยืนว่า พ.ต.ท.หญิง โสภิดาฯ ซึ่งเป็นสารวัตรที่ทำหน้าที่ด้านงานธุรการในสังกัด บก.ตม.2 ว่าไม่ได้เป็นผู้จัดทำและไม่ใช่เอกสารที่ทาง สตม. ทำขึ้นแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากบุคคลตามที่อ้างถึงตามข่าว ไม่ใช่บุคคลตามหมายจับคดีอาญาหรือเป็นบุคคลที่ถูกจับกุมและศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ออกจากราชอาณาจักร ก็สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้ตามปกติ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีบุคคลที่เคลื่อนไหวทางการเมืองเดินทางเข้าออกประเทศได้ตามปกติ ไม่ได้มีการจับกุมแต่อย่างใด
ส่วนการจับกุมตามหมายจับคดีอาญาทุกประเภท ของ บก.ตม.2 ที่มีการจับกุมจากการตรวจพบในระบบ ขณะเดินทางเข้าออกประเทศ ในปี 2562 จับกุม 549 คดี ปี 2563 จับกุม 326 คดี และปี 2564 จับกุมได้ 210 คดี
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน