.
มีรายงานข่าวจากทบ.ระบุว่า พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. อนุมัติให้ งดการเรียกกำลังพลสำรองและทหารกองหนุน เข้ารับราชการเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร ประจำปี2564 ในส่วนของกองทัพบก หลังจากที่เลื่อนมาหลายเดือน จนสิ้นสุดเวลาการฝึกในเดือน สค. นี้ แต่สถานการณ์โควิดฯ ยังไม่คลี่คลาย
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 30 เม.ย.2564 ช่วงที่กำลังจะเกิดการระบาดหนักของ โควิดฯระลอก 3
ได้มีการออกประกาศแจ้งว่า
กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพบก และกองทัพอากาศ จะเรียกกำลังพลสำรองและทหารกองหนุน เข้ารับราชการเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร และเพื่อปฏิบัติราชการ ประจำปี 2564
จึงขอความร่วมมือ นายจ้าง ที่มีลูกจ้างซึ่งเป็นกำลังพลสำรองและทหารกองหนุนทำงานอยู่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 35 และมาตรา 58 ในส่วนที่เกี่ยวกับการลาเพื่อรับราชการทหารในการเรียกพล เพื่อการตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหารตามกฏหมายว่าด้วยการรับราชการทหารและในการจ่ายค่าจ้างในวันที่ลา
แต่จากนั้น สถานการณ์โควิดฯรุนแรงขึ้น ทางกองทัพ จึงเลื่อนการเรียกฝึก ออกไป โดยยดกำหนดกรอบเวลา จนถึงเดือน กค.-สค.2564 แต่ จนปัจจุบัน สถานการณ์ ยังไม่ดีขึ้น
และเพื่อเป็นการลดภาระของ กำลังพลสำรองและทหารกองหนุน ที่ต้องต่อสู้ชีวิต ทำงานหาเลี้ยงชีพ ตน และครอบครัว ในช่วงที่ยากลำบาก เช่นนี้
รวมทั้ง เพื่อลดโอกาสเสี่ยง ของการแพร่เชื้อ ในการมารวมตัวกันทำการฝึกในค่ายทหาร
กองทัพบก จึงงดการเรียกฝึก ของปี2564 โดยจะมีการ เรียกพลฝึก ในปี2565 เลย
ทั้งนี้ ในการเรียก กำลังพลสำรองและทหารกองหนุน มาฝึก ตามปกติ จะมีขึ้น มค.-สค. ในแต่ละปี นั้น จะมี คำสั่งเรียกพล(ตพ.17)หรือหมายเรียกพล (ตพ.13) ส่งถึงบ้าน
ตามพรบ.กำลังพลสำรอง2559 กำหนดให้ นายจ้าง ต้องอนุญาตให้ ลูกจ้างลา ที่ถูกเรียกพล มาฝึกเพื่อรับราชการทหารตามกำหนดเวลาที่ปรากฏในคำสั่งนั้นโดยยังได้รับเงินเดือนอยู่
โดย เมื่อครบกำหนดระยะเวลาการฝึกตามคำสั่งเรียกพลหรือหมายเรียกพล ให้ลูกจ้างนำเอกสารขอความร่วมมือในการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้าง (ตพ.22)ไปแสดงต่อนายจ้างเพื่อขอรับค่าจ้าง โดยให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลาเพื่อรับราชการทหารเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา