ตามที่มีภาพปรากฏในสื่อโซเชียล (เฟสบุ๊คกลุ่มเพื่อนตำรวจ โพสต์ข้อความโดยพระจันทร์ ลายกระต่าย) ข้อความว่า “ผกก.สน.ปทุมวัน ลูกน้องติดโควิดท่านไม่ประสานโรงพยาบาลเพื่อหาเตียงให้ผมก็ว่าใจดำแล้ว ข้าวสักกล่องน้ำสักขวดท่านยังไม่หยิบยื่นให้ แบบนี้ไม่เรียกว่าใจเค็ม แล้วจะให้เรียกว่าอะไรครับ” นั้น
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.เมธี รักษ์พันธุ์ ผบก.น.6 รายงานข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวขึ้นมาโดยด่วน เนื่องจากการดูแลกำลังพลที่เจ็บป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติมาโดยตลอด ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้
ในห้วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา สน.ปทุมวัน ได้ดำเนินการช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและครอบครัว สรุปได้ความดังต่อไปนี้
1.ได้ดำเนินการจัดทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพ แบบเฉพาะโรคไวรัสโคโรนา 2019 กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) สาขาบางพลัด ให้กับข้าราชการตารวจทุกนาย จำนวน 206 นาย
2.ได้ดำเนินการจัดหาสิ่งของอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน รวมถึงการนำอาหารไปแจกให้กับข้าราชการตำรวจ ณ อาคารบ้านพักสวัสดิการแฟลตตารวจ สน.ปทุมวัน อย่างต่อเนื่อง
3.ได้ดำเนินการจัดหาบริษัทเอกชนฯ มาดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในสถานที่ทำการ สน.ปทุมวัน,ตู้ป้อมยามจราจร,ที่พักคอยสายตรวจ และอาคารบ้านพักสวัสดิการแฟลตตำรวจ สน.ปทุมวัน รวมถึงได้จัดหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดของสำนักงานเขตปทุมวัน มาดำเนินการทำความสะอาด ณ บ้านพักสวัสดิการแฟลตำรวจ สน.ปทุมวัน ให้ถูกสุขลักษณะอนามัย อันเป็นการป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019
4.ได้ดำเนินการจัดหาหน้ากากอนามัย ชุด PPE เจลล์ล้างมือแอลกอฮอล์ เฟสชิลล์ และอุปกรณ์ ต่างๆ ในป้องกันไวรัสโคโรนา จากหน่วยงานอื่นๆมาให้กับข้าราชการตำรวจ เพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่
5.ได้ดำเนินการจัดทำโครงการอาหารกลางวัน (ทุกวันทำการ) ให้กับข้าราชการตำรวจ ซึ่งจากเดิมจะต้องไปรับประทานอาหารที่โรงครัวสวัสดิการ สน.ปทุมวัน ร่วมกันทุกนาย โดยได้ปรับเปลี่ยนเป็น
ให้ โรงครัวสวัสดิการฯ จัดทำข้าวกล่อง และแจกจ่ายให้กับข้าราชการตำรวจมารับข้าวกล่องดังกล่าวกลับไปรับประทาน อันเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ตามนโยบายของรัฐบาล
6.ผู้บังคับบัญชาของ สน. และ บก. ได้เยี่ยมเยียนข้าราชการตำรวจในสังกัด ขณะปฏิบัติหน้าที่ ณ ที่ทำการ ป้อมยามจราจร จุดตรวจต่างๆ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ อย่างต่อเนื่อง
7.ได้ประสานกับโรงพยาบาลเอกชน โดยใช้งบประมาณของสำนักงานอนามัยสาธารสุข ศูนย์ 5 (จุฬาลงกรณ์) มาดำเนินการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เชิงรุกให้กับข้าราชการตำรวจในสังกัดทุกนาย รวมถึงครอบครัวข้าราชการตำรวจที่มีความเสี่ยงสูง
8.ประสานกับคณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำเนินการตรวจสุขภาพ และทำประวัติสุขภาพของข้าราชการตำรวจ สน.ปทุมวัน และครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อดูแลข้าราชการตำรวจและครอบครัวกลุ่มดังกล่าวเป็นพิเศษ
9.ได้ประสานกับคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการตรวจอัลตร้าซาวด์ หลอดเลือด (บริเวณลำคอ) เพื่อตรวจหามวลความหนาของไขมันบริเวณลำคอในการลาเลียงเลือดไปเลี้ยงสมอง อันเป็นการส่งเสริมและดูแลสุขภาพให้กับข้าราชการตำรวจในสังกัด
10.ได้มีการจัดการประชุมผ่านระบบออนไลน์ ระดับ รอง ผกก.ฯ–สว.ฯ ฝ่ายอำนวยการ ตลอดจน ธุรการทุกฝ่ายในสังกัด ในการติดตาม กำกับดูแลสารทุกข์สุขดิบ ติดตามการปฏิบัติหน้าที่และความเป็นอยู่ของ ข้าราชการตำรวจและครอบครัวอยู่เสมอทุกสัปดาห์
ในส่วนของภาพที่ปรากฏในสื่อโซเชียลนั้น สน.ปทุมวัน ได้ประสานไปยัง สถานพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ในการจัดหาสถานที่รักษาพยาบาล,โรงพยาบาลสนาม,Hospitel หรือสถานที่สถานพยาบาลอื่นๆ เพื่อขอให้ จัดหาสถานพยาบาลรองรับข้าราชการตำรวจและครอบครัวที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในรายที่ถูกกล่าวถึงเข้าทำการรักษาตัวแล้ว แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีเตียงในการรองรับข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวได้ จึงได้สั่งการให้ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน ดูแลข้าราชการ ตำรวจรายดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งต่อมาสำนักงานสาธารณสุข ศูนย์ 5 จุฬาลงกรณ์ได้แนะนำให้ข้าราชการตำรวจรายดังกล่าว เข้าร่วมโครงการ Home Isolation โดยจะมีคณะแพทย์และคณะพยาบาลเข้ามาดูแลรักษาโดยจะนำยารักษา และอาหาร 3 มื้อต่อวัน มาส่งให้จนกว่าจะรักษาตัวหายดีจากการป่วย
ต่อมาข้าราชการตำรวจรายดังกล่าวได้รับการประสานให้เข้าทำการรักษาตัวที่ Hospitel
รพ.เลิศสิน โรงแรมนารายณ์ สีลม เมื่อวันที่ 26 ก.ค.64 เวลา 18.50 น. เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตามห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา สน.ปทุมวัน และบก.น.6 ได้พยายามดูแลสภาพความเป็นอยู่ของข้าราชการตำรวจและครอบครัว อย่างสุดความสามารถ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี แต่อาจมีการสื่อสารที่ผิดพลาด ทำให้เกิดความไม่เข้าใจในบางประเด็น จึงขอชี้แจงเรื่องดังกล่าวตามที่ปรากฏในสื่อโซเชี่ยลมาให้ทราบโดยทั่วกัน
Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน