(23 ก.ค.64) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ช่วงเที่ยงได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคไปให้นายศรศักดิ์ แก้วบัวดี อายุ 41 ปี อาชีพขับรถมอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร อยู่ที่บ้านเลขที่ 89/6 ซ.เพชรเกษม 81/ 6 (ซ.1ขวามือสุด)ชุมชนหรรษาร่วมใจ แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กทม.เป็นบ้านพี่สาวของนายศรศักดิ์ มีผู้พักอาศัย 9 คนติดโควิด-19 ไปแล้ว 8 คน โดยพี่สาวมีอาชีพทำอาหารส่งขายตามห้างสรรพสินค้าก็ติดโควิด-19ด้วย นายศรศักดิ์สงสัยว่าตนเองติดโรคโควิด-19 พร้อมภรรยาคือนางแดง มณีพร อายุ 36 ปี สัญชาติลาว ไปตรวจที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์แล้ว แต่รพ.ไม่ตรวจให้เพราะไม่มีพาสปอร์ต ขณะนี้นางแดงมีอาการไอ มีน้ำมูก อาเจียน นายวัชระ ได้ประสานงานนายนันทชัย ปัญญาสุรฤทธิ์ ผู้ตรวจราชการ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ทีมงานนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อจัดให้นายศรศักดิ์ และประชาชนรวม 9 รายไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายต่อไป ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนย่านฝั่งธนบุรีคิดค่าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ถึงรายละ 3,000 บาทและถ้าออกใบรับรองแพทย์ด้วยต้องเสียรายละ 3,500 บาท ส่วนกรณีนางแดง ต่อมาญาติได้นำส่งโรงพยาบาลเอกชนแล้วเพราะไม่ต้องใช้พาสปอร์ต
จากนั้น นายวัชระ ได้เดินทางต่อไปที่ซ.4 ชุมชนหรรษากรมที่ดิน หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีชาวบ้านติดโควิด-19 จึงได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและประสานงานให้ไปตรวจโควิด-19เช่นเดียวกัน หมู่บ้านหรรษากรมที่ดิน ตั้งอยู่ที่เดียวกับสำนักงานกรมที่ดิน สาขาหนองแขม มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 แล้วถึง 2 ศพ เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ที่ซอย 2 สุดซอย
จากการไปเยี่ยมบ้านผู้ป่วยทุกหลังในหมู่บ้านนี้ จัดว่าเป็นพื้นที่ต้องระมัดระวังสูงสุด จึงขอเตือนประชาชนว่าไม่ว่าไปที่ไหน ประมาทไม่ได้ การ์ดอย่าตก ต้องระมัดระวังตนเองและครอบครัวให้มากที่สุด
นายวัชระ เห็นว่า สิ่งที่โรงพยาบาลรัฐต้องแก้ไขคือ ควรรับรักษาผู้ป่วยไม่ว่าชาติใด ไม่ใช่อ้างว่าไม่มีบัตรรักษาไม่ได้ แล้วปล่อยให้ผู้ป่วยกลับไปแพร่เชื้อให้คนที่บ้านอีก ให้มองคนให้เป็นคนอย่างเท่าเทียมกัน อย่าอ้างกฎระเบียบแล้วไม่รักษาให้ ทำให้โรคยิ่งระบาดต่อเนื่องไปไม่จบถ้านักการเมืองไม่ลงไปถึงหน้าบ้านประชาชน
ก็จะไม่เห็นแววตาสิ้นหวังของประชาชน
เขาต้องการรักษาพยาบาลตามรัฐธรรมนูญที่บัญญัติไว้ทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น