วันนี้ (9 ก.ค.64) เวลา 10.00 น. ที่ห้อง CA309 อาคารรัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง และนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เข้าให้ปากคำเป็นพยานกับว่าที่ร้อยตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบกรณีการขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ
นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการปปช.สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครทั้งสิ้น แต่เห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่ราชการไปยอมขยายเวลาการก่อสร้างให้กับเอกชน ทำให้ราชการเสียประโยชน์อย่างมาก เฉพาะค่าปรับวันละ 12.28 ล้านบาท ขยายเวลาก่อสร้างมากถึง 1,864 วันมากกว่าสัญญาหลักที่มีกำหนดไว้เพียง 900 วันถึงกว่า 1 เท่าตัว
ขณะเดียวกันสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.ยังเห็นว่าเรื่องนี้ส่อพิรุธว่ามีการทุจริต จึงไปตั้งเรื่องร้องเรียนไว้
ส่วนสำนักงบประมาณได้เรียกสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไปชี้แจงงบประมาณict.จากเดิมในวงเงิน 3,000 ล้านบาท แต่มีการเปลี่ยนแปลงจากจ้างที่ปรึกษาเป็นจ้างออกแบบ โดยใช้วิธีพิเศษจ้างบ.เมอร์ลิน จก.มาออกแบบมีการเพิ่มงบict เป็น 6,948 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรชี้แจงต่อสำนักงบประมาณว่า”เอาตามนั้นๆๆ “โดยไม่สามารถชี้แจงที่มา ราคาของวัสดุในงบประมาณได้แม้แต่น้อย
นายวิลาศ กล่าวอีกว่า ได้ไปร้องเรียนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ในเรื่องนี้ไว้แล้ว และหากคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบกรณีการขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ โดยมีว่าที่ร้อยตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เป็นประธานไม่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ก็จะไปยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.สอบสวนด้วยเช่นกัน จากนั้นนายวัชระ เพชรทอง ได้นำส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง และเอกสารของบริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน)ที่นำมาจากเว็บไซด์ของบริษัทนี้แสดงผลงานว่าเป็นผู้สร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ส่งให้ว่าที่ร้อยตรีอาพัทธ์ เพื่อเปรียบเทียบกับสัญญาเลขที่ 116/2556 ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเซ็นกับบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) ว่าเป็นบริษัทเดียวกับที่เซ็นสัญญาหรือไม่ ถ้าไม่ใช่แสดงว่ามีการรับเหมาช่วงใช่หรือไม่ ผิดสัญญาการก่อสร้างใช่หรือไม่ และคณะกรรมการต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร การทำอย่างนี้หรือที่เรียกว่าบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ มีธรรมาภิบาลทางการค้าสากลหรือไม่ ผู้ถือหุ้นรู้หรือไม่ เมื่อมีการทำผิดสัญญาข้อ 11 อย่างชัดเจนที่ก่อสร้างไม่เสร็จจนถึงวันนี้ นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาฯได้แจ้งความเอาผิดผู้รับจ้างตามกฎหมายหรือไม่ และเรียกค่าปรับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 จนถึงวันนี้วันละ 12.28 ล้านบาทคิดเป็นเงิน 2,333.2 ล้านบาท (สองพันสามร้อยสามสิบสามล้านสองแสนบ้านถ้วน )หรือไม่
อนึ่ง ในวันนี้ นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ ประธานคณะกรรมการตรวจการจ้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ซึ่งเป็นกรรมการสอบสวนชุดนี้อ้างลากิจไม่เข้าประชุม จึงสันนิษฐานว่าเพราะต้องการหลบหน้านายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ พยานผู้มาให้การ เนื่องจากนายวิลาศเป็นผู้เปิดโปงเรื่องเสาไฟฟ้าในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ส่อผิดสเปค จากเดิมเป็นเสาหล่อด้วยอลูมิเนียมผสมทองแดงสูง15 เมตร ย้อมแมวเป็นเสาเหล็กแผ่นม้วนวงกลมมาเชื่อมเป็นเสา มีรอยนูนตะปุ่มตะป่ำ และขึ้นสนิมแล้ว รวมถึงกรณีงานเพิ่มงานลดที่มากกว่า 150 ครั้งซึ่งคณะกรรมการตรวจการจ้างฯได้ตรวจรับไปทั้งหมดแล้วรวมถึงเสาไฟฟ้าย้อมแมวในสภาฯด้วย