เชื่อได้เลยว่ามีใครหลายคนที่รู้จัก Laser กันแน่นอน ปัจจุบัน Laser ได้ถูกใช้งานในหลายๆ วงการ
ทั้งด้านการทหาร พลเรือน วงการแพทย์ ใช้เป็นเครื่องมือตัดโลหะ และอีกมากมาย
แต่การที่จะใช้ Laser มาเป็นอาวุธใช้ยิงกันแบบในหนัง Star Wars หรือหนังไซไฟร์ยุคอนาคตนั้น ในยุคนี้
คงยังอีกนานกว่าจะมีแบบนั้นได้ แต่ Boeing กำลังที่จะทำความฝันนั้นให้กลายเป็นจริงโดยการพัฒนาระบบ
Laser ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นอาวุธทางการทหาร ถึงแม้วงการทหารจะมี Laser ใช้อยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ใช้ใน
การวัดระยะ ระบุตำหน่ง และชี้เป้า แต่ Laser ที่ Boeing จะพัฒนาขึ้นมา เป็น Laser ที่ใช้ในการทำลาย
วัตถุต่างๆ ได้เลยทีเดียว โดยได้แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
Advanced Tactical Laser (ATL)
Airborne Laser (ABL)
Advanced Tactical Laser
ระบบ Advanced Tactical Laser (ATL) เป็น Laser ที่มีความเข้มข้นของแสงสูง ประกอบด้วยปฏิกิริยา
ทางเคมี chemical oxygen iodine laser (COIL) ทำให้เกิดความเข้มแสงสูงถึงในระดับ กิโลวัตต์
ระบบนี้มีระยะยิงประมาณ 18-20 กิโลเมตรขึ้นไป ความกว้างของแสงไม่เกิน 10 ซม. สามารถใช้ยิงใส่
ปตอ. อาคาร ยานพาหนะ หรือ UAV ต่างๆ ได้
น้ำหนักของระบบนี้ราวๆ 20 ตัน ตัว Laser หนักราวๆ 6 ตัน และระบบควบคุมการยิง 14 ตัน บวกกับความ
อเนกประสงค์ของเครื่อง C-130 ทำให้สามารถติดตั้งระบบชนิดนี้ได้ แต่ข้อเสียของระบบนี้คือ
เปลืองพลังงานค่อนข้างมาก
Airborne Laser
Airborne Laser ระบบล่าสุดที่ Boeing กำลังพัฒนา มีความเข้มข้นของแสงสูงมากกว่าระบบ ATL
สูงถึงระดับเมกกะวัตต์ มีระยะยิงไกลมากกว่า 100 กิโลเมตร เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้ยิงเป้าหมาย
ที่อยู่ในระยะไกลโดยเฉพาะ เช่น จรวดข้ามทวีป , จรวด SCUD , Cruise Missile , อาวุธปล่อยนำวิธีที่ยิง
จากเครื่องบินรบ หรือแม้กระทั่งดาวเทียม (Boeing มีแผนพัฒนาให้สามารถใช้ยิงเครื่องบินได้ โดยการ
ยิงแสง Laser ความร้อนสูงไปหลอมละลายโครงสร้างเครื่องบิน) ระบบชนิดนี้มีน้ำหนักค่อนข้างมาก
มากกว่าระบบ ATL หลายเท่า
โดย Laser นั้นจะประกอบไปด้วยโลหะไอโอดีนธาตุออกซิเจนสารเคมีที่ทรงพลังในการเอ็กซ์เรย์
การทำงานเครื่องบินจะตรวจจับขีปนาวุธโดยใช้ลำแสงอินฟาเรดที่อยู่บนตัวเครื่องในการตรวจจับ
เมื่อตรวจจับได้ก็จะเริ่มระบุพิกัด ข้อมูล ความเร็ว และตำหน่งของเป้าหมาย จากนั้นก็เริ่มทำการ Lock on
แล้วก็ยิง Laser ทำลายล้างที่อยู่ตรงหัวเครื่องบิน ไปเพื่อทำลายเป้าหมาย ซึ่งโอกาสพลาดเป้าจะน้อยมาก
เพราะ Laser จะพุ่งไปเป็นเส้นตรงและพุ่งไปด้วยความเร็วสูง ประกอบกับอำนาจการทำลายล้างอยู่ในวงจำกัด
จึงไม่ส่งผลต่อบริเวณโดยรอบแต่อย่างใด ( Laser ของจริงที่เอาไว้ยิงทำลายจะเป็นลำแสงที่ไม่สามารถมอง
เห็นได้ด้วยตาปล่าว ไม่ได้แสดงออกมาเป็นลำแสงให้เห็นจริงๆ แต่อย่างใด)
การพัฒนาในอนาคต
ถึงแม้ทั้งระบบ ATL และ ABL จะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ข้อเสียของมันก็ยังมีคือ ระบบมีขนาดใหญ่เกินไปที่
จะติดตั้งบนเครื่องบินหรือยานพาหนะขนาดเล็กได้ ประกอบกับการที่มันกินพลังงานค่อนข้างมาก ทำให้การ
พัฒนาอาวุธชนิดนี้ต้องใช้เงิน และเวลา ในการพัฒนานานสักหน่อยกว่าจะทำให้มันสมบูรณ์แบบได้
ซึ่ง Boeing มีแผนงานในอนาคตคือ การพัฒนาระบบ ABL ให้สามารถติดตั้งบนเครื่องบินขับไล่ได้
ซึ่งระบบนี้อาจจะมาแทนระบบปล่อยชาฟท์และ แฟลร์ บนเครื่องบินรบปัจจุบันซึ่งไม่ค่อยได้ผลเท่าไร
แล้วหากเจออาวุธปล่อยนำวิถียุคใหม่เข้าไป ซึ่งก็หวังว่าหากระบบนี้พัฒนาเสร็จสมบูรณ์ ควจะก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในวงการทหารอย่างแน่นอน