วันนี้ (5 ก.ค.64) นายวัชระ เพชรทอง อดีต.ส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่าได้รับการร้องเรียนจากนางเจนจิรา จ่าทอง อายุ 23 ปี มีบุตร 3 คน เป็นชายฝาแฝด 2 คนอายุ 6 ขวบหญิง 1 คน อายุ 4 ขวบและสามี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่35/19 หมู่บ้านหรรษา เพรชเกษม81/6 แขวง หนองค้างพลู เขต หนองแขม กทม. 10160
ผลการตรวจที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ปรากฎว่าติดโควิด-19ทั้งครอบครัว 5 คน ศูนย์เอราวัณแจ้งว่าให้รอที่บ้าน ตอนนี้รอมา 5 วันแล้ว ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือ ขณะที่อาการป่วยก็แย่ลงทุกวัน นางเจนจิราไอตลอด เหนื่อยหอบ ไม่มีแรง สามีเหนื่อย ไอ ลุกไม่ไหว มีเสลดสีดำ ต้องการให้รถพยาบาลมารับรักษาโดยเร็วที่สุดเพราะจะไม่ไหวแล้ว ส่วนเด็กๆกลางคืนมีไข้ทุกคน ให้กินยาลดไข้เด็กชายฝาแฝดมีโรคหอบหืด เลือดจางและภูมิแพ้ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ส่วนลูกสาวเรียนอนุบาล 1 ซึ่งนางเจนจิราขอร้องให้รัฐเข้ามาช่วยเหลือด่วน จะเป็นโรงพยาบาลสนามหรือที่ไหนก็ยินดีไปทุกแห่ง เพียงแต่ขอให้ได้รับการรักษาเท่านั้น
นายวัชระ ได้ช่วยเหลือในเบื้องต้นด้วยการนำยาฟ้าทะลายโจรของโรงพยาบาลอภัยภูเบศร์ พร้อมหน้ากากอนามัย และอาหารมาให้เพื่อบรรเทาทุกข์และอาสาจะช่วยประสานงานให้โดยเร็วที่สุด การที่ศูนย์เอราวัณบอกให้ผู้ป่วยรอที่บ้าน เป็นที่เข้าใจได้ แต่การที่ผู้ป่วยโควิด-19รออย่างไร้ความหวัง ขณะที่อาการเริ่มทรุดลงเรื่อยๆและมีเด็กเล็กติดโควิดอีกถึง 3 คน ศูนย์เอราวัณหรือรัฐบาลควรตั้งหลักคิดใหม่ว่า ครอบครัวไหนมีเด็กเล็กติดโควิดควรจะต้องได้รับการดูแลรักษาพยาบาลโดยด่วนที่สุดทุกครอบครัว
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรจัดลำดับความสำคัญของผู้ป่วย โควิด-19 เด็ก สตรี และ คนชรา ต้องได้รับการดูแลรักษาโดยเร็วที่สุด อย่าทิ้งไว้ที่บ้านอย่างไม่มีความหวังเช่นนี้ เพราะเขาคือคนไทยที่ลุงตู่บอกว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่ตอนนี้ทิ้งไว้ตามบ้านเป็นจำนวนมาก ตน จะไม่ยอมปล่อยให้ชาวหนองแขมต้องเสียชีวิตคาบ้านแบบอาซิ้มอาม่าเป็นอันขาด จึงต้องกราบขอร้องให้นายกรัฐมนตรีซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ดูแลประชาชนให้ทั่วถึง อย่าปล่อยให้ชาวบ้านสิ้นหวังและตายคาบ้านเพราะโรคโควิด-19อีก..
ธีรพล ปลื้มถนอม “ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ๕ เหล่าทัพ กองบรรณาธิการข่าว กทม.” รายงาน